นับเป็นอีกความเคลื่อนไหวด้านเทคโนโลยีภาครัฐฯ หรือ GovTech ที่น่าสนใจ เมื่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ Creden บริษัท Startup ด้าน Identity and Verification Online Platform เพื่อให้บริการกับหน่วยงานภาครัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยมี 4 หน่วยงานเริ่มใช้แล้วทั้งส่วนงานบริการธุรกิจและงานให้บริการประชาชน
สำหรับบริการของ Creden ที่ลงนามในครั้งนี้ จะเป็นบริการ eKYC ที่ช่วยยืนยันตัวตนและพิสูจน์ตัวตนบน Digital กับบริการสร้างเอกสารและลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทางออนไลน์ (Electric Document and Signature) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และเสริมด้วยTEDA ซึ่งเป็นระบบ Timestamp จาก ETDA รวมถึงยังเป็น Online Platform ที่รองรับการใช้ Device หลากหลาย ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การทำธุรกรรมระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เกิดขึ้นอย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดต้นทุนกว่ารูปแบบเดิมอย่างมาก
ปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐฯ 4 ราย นำบริการของ Creden ไปใช้แล้ว ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กรมพัฒนาที่ดิน และคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ทั้งยังมีผู้ใช้บริการเป็นภาคเอกชนอีกหลายราย
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “ในวันนี้ผมมีความยินดีที่ได้เห็น Startup ของคนไทยอย่าง Creden ซึ่งได้ริเริ่มธุรกิจด้านเทคโนโลยีให้บริการสร้างเอกสารและลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทางออนไลน์ (Electric Document and Signature) ซึ่งบริการดังกล่าวนับเป็นบริการที่มีความสำคัญสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ รวมถึงนโยบาย Thailand 4.0 ในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะระบบราชการต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการทำงานใหม่ ต้องปรับตัวเข้าสู่ Digitalization นำเทคโนโลยีที่มีมาบูรณาการและช่วยอํานวยความสะดวกให้ประชาชน ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายการลดการใช้กระดาษในองค์กร ตามมติคณะรัฐมนตรี จะช่วยให้ลดปริมาณขยะ ลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของภาครัฐ สร้างความสะดวกในการทำงานยิ่งขึ้น”
คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงในครังนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Creden ในการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในองค์กร การให้บริการประชาชน และเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจสามารถแข่งขันกับต่างประเทศในยุค Digital Economy ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
คุณภาวุธยังเผยว่า Creden มีแผนจะพัฒนาระบบ Credit Scoring เพื่อระบุคะแนนความน่าเชื่อถือของผู้ทำธุรกรรมบน Platform ด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด