จุฬาฯ จับมือกสิกรไทย พัฒนา CU NEX แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงทุกมิติ มุ่งพัฒนาการใช้ชีวิตของนิสิตในยุคดิจิทัล

จุฬาฯ จับมือกสิกรไทย พัฒนา CU NEX แพลตฟอร์มเชื่อมโยงทุกมิติ มุ่งพัฒนาการใช้ชีวิตของนิสิตในยุคดิจิทัล

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับธนาคารกสิกรไทย เปิดตัว CU NEX Application แอปพลิเคชันที่จะเชื่อมโยงทุกมิติการใช้ชีวิตของนิสิต อาจารย์ และบุคลากรในรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมขับเคลื่อนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ก้าวขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์แห่งทศวรรษใหม่ด้วยการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้ยกระดับการเรียนการสอน การพัฒนาองค์ความรู้ ตลอดจนการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างสรรค์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพของนิสิตในยุคดิจิทัล

ศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศที่มุ่งสร้างสรรค์บุคลากรรุ่นใหม่ที่เป็นพลังสำคัญของการพัฒนาประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนามหาวิทยาลัยให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอจึงเฟ้นหาพันธมิตรที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการเปลี่ยนผ่านสู่ ‘Chula New Era’ หรือ ‘จุฬายุคใหม่’ ยุคแห่งดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ โดยการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีจากธนาคารกสิกรไทยในการสร้างสรรค์ ‘CU NEX Application’ ที่จะเชื่อมโยงการใช้ชีวิตของนิสิตเข้ากับดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกและผลักดันให้นิสิตใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจะช่วยพลิกโฉมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสู่เป้าหมายการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์แห่งแรกในประเทศไทย

ศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ด้าน นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าในโลกยุคดิจิทัลที่ธุรกิจธนาคารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธนาคารกสิกรไทยเห็นความสำคัญของการสร้างสรรค์บริการและนวัตกรรมแห่งอนาคต และมุ่งสู่การให้บริการมากกว่าความเป็นธนาคาร (Beyond Banking) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้นำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยี นวัตกรรม โซลูชั่นส์ และข้อมูลผู้บริโภคเชิงลึก (data driven insights) มาพัฒนาต่อยอดเพื่อผสานเป็นทุกส่วนของชีวิต หรือ ‘Life Platform of Choices’ ของลูกค้า

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

ในโอกาสนี้ทางธนาคารกสิกรไทยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกันเป็นอย่างดี ให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้ความร่วมมือทางด้านดิจิทัลอย่างเป็นทางการนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะสนับสนุนจุฬาลงกรณ์ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อร่วมสร้างโซลูชั่นส์เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการ การส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลที่ช่วยพัฒนาศักยภาพนิสิตและบุคลากร รวมถึง การสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ สิ่งที่เราทำไม่ใช่เพียงแค่แอพอย่างเดียว แต่ยังมีอย่างอื่นด้วยที่เราได้พัฒนาไปสู่เป้าหมายที่มีร่วมกัน

CU NEX...เพื่อนคู่กายใหม่ของนิสิต

ศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ กล่าวเสริมว่า ภายใต้โครงการเพื่อขับเคลื่อนจุฬาลงกรณ์สู่ยุคใหม่ของการศึกษาที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อม จุฬาลงกรณ์มุ่งเน้นในการพัฒนา 3 ด้านหลัก ได้แก่ (1) เชื่อมโยงทุกมิติการใช้ชีวิตของนิสิต (2) พัฒนาศักยภาพนิสิตและบุคลากรให้พร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัล และ (3) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ด้านข้อมูล โดย CU NEX Application จะเข้ามามีบทบาทในทุกมิติการใช้ชีวิตของนิสิต เพื่อสนับสนุนให้นิสิตได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่และรอบด้านด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี

ความเชื่อมโยงทุกมิติการใช้ชีวิตของนิสิต เริ่มตั้งแต่ก่อนออกเดินทางไปยังมหาวิทยาลัย นิสิตสามารถตรวจสอบตารางเรียนและห้องเรียน หรือค้นหา e-book ที่สนใจจากศูนย์หนังสือจุฬาฯ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าห้องเรียน เมื่อเดินทางถึงมหาวิทยาลัยแล้วยังสามารถตรวจสอบตาราง สถานะ และตำแหน่งของรถประจำทางภายในมหาวิทยาลัย เพื่อการวางแผนเดินทางไปยังจุดต่างๆ ภายในและรอบๆ มหาวิทยาลัยได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถค้นหาหนังสือจากทุกห้องสมุดในมหาวิทยาลัยได้อย่างรวดเร็ว หรือทำงานกลุ่มที่ PLEARN Space พื้นที่การเรียนรู้ยุคดิจิทัลที่จะเปิดโลกทัศน์ให้กับนิสิต หลังเลิกเรียน นิสิตยังสามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

ด้วยการจองการเข้าร่วมกิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยที่สนใจ หรือจองสถานที่สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยภายในรั้วมหาวิทยาลัยด้วยระบบ SOS ในแอปพลิเคชั่น

ในอนาคต CU NEX Application ยังมีแผนในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของข้อมูลในด้านต่างๆ ได้แก่ การสร้าง Data Hub ที่ใช้เทคโนโลยี Machine Learning รวบรวมพฤติกรรมของนิสิต และใช้ Business Intelligence (BI) วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพนิสิตให้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการจัดการงานเอกสารสำคัญต่างๆ ของมหาวิทยาลัยด้วยเทคโนโลยี Blockchain ทั้งหมดนี้เป็นการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล เพื่อให้นิสิตใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างเต็มที่ และผลักดันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสู่เป้าหมายการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์แห่งแรกในประเทศไทย

กว่าจะมาเป็น CU NEX

ในการเตรียมความพร้อมกว่าที่จะมาเป็นแอพพลิเคชัน CU NEX ได้นั้น ทางด้าน ศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม กล่าวว่า ทางมหาลัยได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรมาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหนึ่งปี มีการเตรียมความพร้อมว่าจะทำอย่างไรเพื่อเป็นการตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตแบบดิจิตัลของนักศึกษาได้บ้าง

แผนพัฒนาแอพพลิเคชัน

แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยได้มีความร่วมมือกับทางธนาคารกสิกร แต่ CU NEX นั้นยังต้องมีการพัฒนาต่อไป ในอนาคตทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตั้งเป้าหมายเพียงการให้บริการเฉพาะเหล่านิสิตจุฬาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบุคคลทั่วไปด้วย หากใครที่ต้องการหาข้อมูลในมหาวิทยาลัยก็สามารถใช้แอพนี้ได้เช่นกัน โดยวางแผนพัฒนาแอพพลิเคชันในแต่ละ phase ดังต่อไปนี้

  • Phase 1 เชื่อมโยงทุกมิติการใช้ชีวิตของนิสิต แอพนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนิสิต โดยจะทมี Digital ID ที่มาแทนที่บัตรนิสิต กับโมบาย แอปพลิเคชั่น “CU NEX” นวัตกรรมเชื่อมโลกการเรียนรู้และการใช้ชีวิตของนิสิตให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งระบบการลงทะเบียน การใช้ห้องสมุด การใช้งานบริการอาคารสถานที่ และการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย การจ่ายเงินแบบไร้เงินสด QR Payment บนแอป CU NEX หรือใช้บัตรนิสิต รับคะแนนสะสม แลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากร้านค้าโดยรอบมหาวิทยาลัย ในอนาคตจะมีการจองห้องสมุด สนามกีฬา CU MAP ที่ไม่ได้เป็นแค่ GPS แต่เป็นระบบ 3D เพื่อช่วยให้นักศึกษาสามารถหาสถานที่เรียนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เรียกว่า “PLEARN Space” ให้นิสิตได้ประโยชน์จากองค์ความรู้ที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งบนโลก
  • Phase 2 พัฒนาศักยภาพนิสิตและบุคลากรให้พร้อมก้าวสู่โลกการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดแอพให้ใช้ ผลตอบรับจากนิสิตไม่ค่อยดีมากนัก ทางมหาวิทยาลัยเลยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาแอพขึ้นเอง ผลปรากฎว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี เนื่องจากเมื่อนักศึกษาได้พัฒนาเอง โดยแอนี้ตะเป็เปิดโลกแห่งการเรียนรู้ของบุคลากร ด้วยกิจกรรมบ่มเพาะความรู้ด้านดิจิทัล
  • Phase 3 ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ไม่เพียงเฉพาะนักศึกษาที่สามารถทำการพัฒนาแอพนี้เท่านั้น บุคลากรทุกคนในจุฬามีสิทธิในการพัฒนาแอพตัวนี้เช่นกัน หากความร่วมมือตรงนี้ได้เกิดมากขึ้น ก็จะนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป และจะช่วยผลักดันให้เกิด ecosystem อย่างครบทุกภาคส่วน

CU NEX กับการแก้ไข Pain Point ของนักศึกษา

ศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม บอกถึงปัญหาที่นิสิตจะต้องพบในชีวิตประจำวันว่า นักศึกษาได้พกต่างๆ จำนวนมาก ทางเราเลยได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก อย่างไรก็ตามแอพนี้ไม่ได้ช่วยเฉพาะในเรื่องของการพกบัตรเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันในทุกๆ ด้านของพวกเขาด้วย การนำนิสิตมาเป็นตัวตั้งนี่เองที่ทำให้เราเริ่มคิดค้นนวัตกรรมที่จะมาช่วยพวกเขาในการใช้ชีวิตให้สะดวกสบาย และมีความสุขขึ้นได้ โดย CU NEX มีความการที่จะเป็นแอพลิเคชันที่เป็น Single formal platform สำหรับ Digital Lifestyle ของทุกคน

ในช่วงแรกนั้นมีเสียงจากนักศึกษาว่า ในการใช้ชีวิตมหาลัย พวกเขาจะต้องทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันกว่า 150 แอพ ทางมหาลัยเลยได้คิดวิธีก้ปัญหาว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้บ้าง ใน 150 แอพพลิเคชันนั้นได้มีข้อมูลจำนวนมาก ในระหว่างนั้นทางเราเลยได้จัดระบบข้อมูลเข้าในระบบที่เรียกว่า Big Data เพื่อที่จะนำ CU NEX ให้ขึ้นมาเป็น Single Formal Platform โดยมีโจทย์ที่นำนิสิตเป็นตัวตั้งว่าพวกเจาจำเป็นที่จะต้องใช้อะไรบ้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวนิสิตและบุคลากร

ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ (ซ้าย) ศ.ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม (ขวา)

ผศ.ดร.ชัยพร ภู่ประเสริฐ กล่าวเสริมว่า การที่เรานิสิตเป็นตัวตัวตั้ง มีความต้องการแตกต่างจากอีกเจเนเรชันแน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่ามือถือได้กลายเป็นของคู่กายไปแล้ว ในสมัยนี้หารลืมกระเป๋าสตางค์นั้นไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะสามารถใช้แอพพลิเคชันบนมือถือในการจับจ่ายแทนได้ หากใครหาห้องเรียนไม่เจอ จะมี 3D MAP ในอาคารเรียนหรือในกรณีที่อาจารย์ท่านไหนต้องการเปลี่ยนห้องเรียนกระทันหัน ก็สามารถทำการแจ้งใน CU NEX ได้เลย ในด้านความปลอดภัย ในแอพจะมีเมนู SOS นิสิตสามารถติดต่อกับทางพนักงานรักษาความปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที ในด้านกิจกรรม ข้อมูลต่างๆ จำนวนมาก การตรวจสอบชื่อ จองคิว เช่นการดูละคร แอพน่าจะเป็นเครื่องมือให้นศ ทำกิจกรรมให้สุด สะดวก มากขึ้นได้

ในตอนนี้ได้มีนักศึกษาโหลดแอพไปใช้งานแล้วกว่า 70% ความตั้งใจในการนำนิสิตเป็นตัวตั้งทำให้ผลตอบรับอีกทั้งความร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชันมีมากขึ้น นับว่าความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้คือการมอบเครื่องมืออันทรงพลังให้แก่นิสิตได้ใช้ชีวิตในวัยเรียนได้อย่างเต็มที่ และมีส่วนร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชันนี้ต่อไป

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...