Deepseek AI เปิดตัวโมเดลรุ่นใหม่ ‘DeepSeek-V3.2-Exp’ ชูเทคโนโลยี Sparse Attention เน้นเร็วขึ้น ถูกลง

Key Takeaways:

  • ใช้เทคโนโลยี Sparse Attention: ทำให้ประมวลผลเร็วขึ้นและลดค่าใช้จ่าย API ลงกว่า 50% กลายเป็นหนึ่งในโมเดลที่คุ้มค่าที่สุดในตลาด
  • เก่งรอบด้าน: สามารถใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างภาพเคลื่อนไหว SVG, ออกแบบหน้าเว็บ, พัฒนาระบบปฏิบัติการบนเบราว์เซอร์ ไปจนถึงการแก้โจทย์ตรรกะและคณิตศาสตร์
  • เข้าถึงง่าย: มีทั้งแชทบอทให้ลองใช้ฟรี, แพลตฟอร์ม API และยังรองรับการติดตั้งเพื่อใช้งานเองบนแพลตฟอร์มอย่าง Olama, LM Studio และ Kilo Code ได้อีกด้วย
  • บันไดสู่ Deepseek R2: โมเดลนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา Deepseek R2 ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Sparse Attention ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และความสามารถที่สูงขึ้นไปอีก

Deepseek AI ได้เปิดตัวโมเดลรุ่นล่าสุดในชื่อ ‘DeepSeek-V3.2-Exp’

โมเดล Deepseek 3.2 Experimental ตัวใหม่ล่าสุดนี้ ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Deepseek 3.1 Terminus แต่มาพร้อมกับนวัตกรรมสุดล้ำที่เรียกว่า เทคโนโลยี ‘Sparse Attention’ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่เข้ามาปฏิวัติวงการเลยก็ว่าได้ หลักการของมันง่ายๆ คือ "เลือกโฟกัสเฉพาะข้อมูลที่สำคัญจริงๆ" ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและพลังงานไปกับข้อมูลที่ไม่จำเป็น

ผลลัพธ์ที่ได้คือ AI ที่ทั้ง เร็วขึ้น ถูกลง, และทำให้นักพัฒนาหรือนักวิจัยเข้าถึงเทคโนโลยี AI ระดับสูงได้ง่ายกว่าที่เคย DeepSeek-V3.2-Exp ไม่ได้แค่มาเพื่อปรับปรุง AI เดิมๆ แต่ตั้งใจจะมา "นิยามใหม่" ให้กับวงการ โดยสร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างนวัตกรรมล้ำสมัยกับการใช้งานได้จริง

Source: DeepSeek

นวัตกรรม Sparse Attention คืออะไร?

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ Deepseek 3.2 คือ เทคโนโลยี Sparse Attention พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ แทนที่ AI จะต้อง "อ่าน" และประมวลผลข้อมูลทุกตัวอักษร ทุกพิกเซลที่ได้รับเข้ามา (ซึ่งเปลืองพลังงานและเวลามาก) เทคโนโลยีนี้จะสอนให้ AI "เลือกโฟกัส" เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องและสำคัญที่สุดเท่านั้น เหมือนเวลาเราอ่านหนังสือแล้วข้ามย่อหน้าที่ไม่สำคัญเพื่อไปสู่ใจความหลักได้เร็วขึ้น

ประโยชน์หลักๆ ของนวัตกรรมนี้คือ:

  • ลดค่าใช้จ่าย API ลงกว่า 50%: ด้วยราคาที่ต่ำเพียง $0.028 ต่อ 1 ล้านโทเคนอินพุต (ประมาณ 1 บาทเท่านั้น) ลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ของนักพัฒนาอย่างมาก
  • ประสิทธิภาพการประมวลผลสูงขึ้น: เมื่อไม่ต้องทำงานหนักกับข้อมูลที่ไม่จำเป็น ก็ทำให้มันทำงานได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลง

Source: DeepSeek

การแก้ปัญหาทั้งเรื่อง "ราคา" และ "ความเร็ว" พร้อมกัน ทำให้ Deepseek 3.2 กลายเป็นเครื่องมือ AI ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงทรงพลังพอสำหรับงานระดับสูง

ความสามารถใหม่ที่น่าจับตา

Deepseek 3.2 ไม่เพียงแค่ทำได้ดีตามมาตรฐานของรุ่นก่อน แต่ยังมาพร้อมความสามารถใหม่ๆ ที่น่าจับตา จากงานหลากหลายประเภทที่ทำได้อย่างแม่นยำและน่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่น:

  • การสร้างภาพเคลื่อนไหว SVG และออกแบบหน้า Landing Page ของเว็บแอปพลิเคชัน (SaaS) ที่ดูสวยงามและทันสมัย
  • การพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ OS บนเบราว์เซอร์ พร้อมหน้าตาการใช้งานที่สวยงามและฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง
  • มีความสามารถโดดเด่นในด้าน การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ และการแก้ปัญหาเชิงปริมาณ (โจทย์คณิตศาสตร์) ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับงานวิจัยและพัฒนา

เข้าถึงง่ายและยืดหยุ่น

หัวใจสำคัญอีกอย่างของ Deepseek 3.2 คือการออกแบบมาให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ผู้ใช้งานสามารถทดลองเล่นกับโมเดลได้ฟรีผ่านหน้าแชทบอท หรือจะเชื่อมต่อผ่าน API ก็ได้เช่นกัน และสำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรืออยากรันบนเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ก็สามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Ollama, LM Studio และ Kilo Code

ความยืดหยุ่นนี้ทำให้นักพัฒนาสามารถนำ Deepseek 3.2 ไปปรับใช้กับโปรเจกต์ของตัวเองได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์เล็กๆ หรือแอปพลิเคชันระดับองค์กรก็ตาม

ก้าวต่อไป จาก Deepseek 3.2 สู่ R2 และอนาคต

Deepseek 3.2 Experimental ถือเป็นบันไดก้าวสำคัญที่จะนำเราไปสู่การพัฒนา Deepseek R2 ในอนาคต ทีมพัฒนานำบทเรียนและข้อจำกัดจากรุ่นนี้ไปปรับปรุงกลไก Sparse Attention ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และขยายขีดความสามารถของโมเดลให้รับมือกับงานที่ซับซ้อนกว่าเดิมได้อย่างแม่นยำ

การเดินเกมแบบนี้ยิ่งตอกย้ำว่า Deepseek 3.2 คืออีกหมุดหมายสำคัญในวิวัฒนาการของเทคโนโลยี AI ที่เชื่อมช่องว่างระหว่างนวัตกรรมและการใช้งานจริง ซึ่งกำลังปูทางไปสู่ความก้าวหน้าครั้งใหม่ของ AI ในอนาคตอันใกล้

ที่มา: Geeky_Gadgets

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Google ขยาย Opal สู่ 160 ประเทศ แพลตฟอร์มสร้างมินิแอปแบบ no-code สำหรับทุกคน

Google ขยายบริการ Opal เครื่องมือสร้างแอปด้วย AI แบบ no-code จาก 15 สู่กว่า 160 ประเทศทั่วโลก ให้ทุกคนสร้างแอปได้ง่ายเพียงพิมพ์คำสั่ง...

Responsive image

จับมือเปลี่ยนเกม บทสรุป Energy Forward 2025 รวมพลังผู้นำทุกภาคส่วน มุ่งสู่เป้าหมายพลังงานยั่งยืน

Energy Forward 2025: ถอดรหัสอนาคตธุรกิจ สู่ยุค Greener Enterprises ด้วย AI, Green Hydrogen และกลยุทธ์ ESG...

Responsive image

AI สร้าง 'วิดีโอสอนออนไลน์' ฟรี ล่าสุด NotebookLM อัปเดตใหม่ แค่อัปโหลดไฟล์ข้อมูล รอไม่นาน ก็ได้คลิปการสอนพร้อมภาพและเสียง

Google อัปเกรด NotebookLM จากเครื่องมือสรุปข้อมูลธรรมดา ตอนนี้สามารถทำได้มากขึ้นทั้งสร้างวิดีโอสอน หรือทำรายงานต่าง ๆ ได้...