4 ปีที่ผ่านมา โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพของ dtac accelerate ประสบความสำเร็จในการผลักดัน Startup Ecosystem ให้เติบใหญ่และก้าวสู่ความเป็นสากลมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสามารถปั้นสตาร์ตอัพ 21 ทีมเข้าสู่โครงการ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 2,000 ล้านบาท ทั้งยังมีการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) แล้วกว่า 150 ล้านบาท ทำให้ dtac accelerate เป็นเบอร์ 1 ด้านโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพของไทย และขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย โดยวัดจากการได้รับเงินลงทุนต่อเนื่อง (Follow-on funding) 70% จากนักลงทุน มีมูลค่ารวมของ 21 บริษัทในโครงการ 1,700 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตถึง 500% ต่อปี
สำหรับ dtac accelerate batch 5 ยังยกระดับมาตรฐานการเฟ้นหาสตาร์ทอัพให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก โดยเปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่สนใจ 3 กลุ่ม
กลุ่มแรก Incubation Track ที่มีไอเดียแล้วแต่ยังไม่มีผลงาน มีแผนโมเดลธุรกิจ มีทีมงานที่มี Passion ที่จะสร้างสรรค์ผลงานให้สำเร็จ
กลุ่มที่สอง Acceleration Track มีผลงานและเริ่มมีโมเดลทางธุรกิจที่ชัดเจน แต่ต้องการปรับปรุง พัฒนาและผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เติบโตมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และ
กลุ่มที่สาม คือ Global Expansion Track สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จแล้ว และอยากขยายตลาดไปในระดับภูมิภาคจนถึงระดับโลก โดยใช้เกณฑ์ในการคัดเลือกสตาร์ตอัพเข้าโครงการ จากอะไรก็ตามที่ผ่านมือถือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตและอะไรก็ได้ที่ว้าว (Anything Mobile, Anything Internet, Anything Awesome)
ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการจะมีเงินทุนสนับสนุนทีมละ 500,000 - 1,500,000 บาท
โดยดีแทคช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ รวมมูลค่าถึง 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้ว
ปีนี้ dtac accelerate batch 5 เป็นโครงการที่จัดใหญ่เล่นใหญ่ขึ้นอีก โดยมีกูรูขั้นเทพมาร่วมติวเข้ม ได้แก่
ส่วนเมนเทอร์ไทยที่จะมาเทรน มาปั้นทีมที่ได้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่
นอกจากนี้ dtac accelerate ยังมีพันธมิตรระดับโลก ได้แก่ Disrupt University ซึ่งเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์ ของ 500 สตาร์ตอัพจากซิลิคอน วัลเลย์ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของสตาร์ตอัพแคมป์ที่ดีที่สุดของโลก, พันธมิตรทางด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยสนับสนุนทางด้านซอฟต์แวร์และโปรแกรมเมอร์ในการทำงาน อาทิ Google Developers, Facebook, IBM, Microsoft, AWS, และพันธมิตรด้านอื่นๆ อาทิ Techsauce, Getlinks, Lean in, Pheromone, Redlab ฯลฯ และ BlackBox บูธแคมป์ที่ได้รับความนิยมท็อป 5 สูงสุดจากสตาร์ตอัพทั่วโลกที่ต้องการรับความรู้และประสบการณ์การทำธุรกิจสตาร์ตอัพโดยตรงที่ซิลิคอน วัลเลย์ โดยส่งทีมที่ชนะเลิศที่มีความสามารถเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ และมีไอเดียที่ดีที่สุดจากประเทศไทยไปเรียนรู้ และได้ทำความรู้จักกับ เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และนักลงทุนผู้มากด้วยประสบการณ์ และแหล่งของทรัพยากรที่จะเร่งให้ประสบความสำเร็จขยายต่อไปในระดับโลก
เนื่องจากปี 2560 มีการตื่นตัวของหลายธุรกิจในการนำเทคโนโลยีและสตาร์ตอัพมาต่อยอด ในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการในรูปแบบดิจิทัล เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งสถาบันการเงิน ธนาคาร ประกันภัย บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ต่างก็มองหาสตาร์ตอัพมาเป็นพันธมิตร ซึ่งสตาร์ตอัพจาก dtac accelerate ก็ได้รับเลือกจาก บริษัทเมืองไทย ประกันชีวิต ยักษ์ใหญ่ของวงการประกันภัย โดยมาลงทุนใน Health at Home และ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังรายใหญ่ของไทยมาลงทุนใน Freshket นับเป็นความภาคภูมิใจของดีแทคที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรใหญ่ในการลงทุนเป็น Corporate Venture Capital พร้อมๆ กันถึง 2 ราย
ต่อจากนี้ โครงการ dtac accelerate ของไทย ยังโดดเด่นและได้เป็นโมเดลแม่แบบให้แก่บริษัทในกลุ่มเทเลนอร์ 7 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เมียนมา ปากีสถาน บังกลาเทศ ฮังการี เซอร์เบีย และนอร์เวย์ ส่วน Next Step ของโครงการ dtac accelerate มีการตั้งเป้าว่าจะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นภายในปี 2020
สำหรับ dtac accelerate batch 5 เปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2560 ผู้ที่สนใจส่งผลงานนำเสนอแนวคิด หรือเข้ามาดูรายละเอียดและกรอกใบสมัครได้ที่ http://accelerate.dtac.co.th โดยสามารถพบกิจกรรมพิเศษ Pitch Clinic ให้คำแนะนำในการเตรียม proposal ในวันที่ 25 มีนาคม 2560 ซึ่งจะมีการคัดเลือกผลงาน 20 ทีมที่ผ่านรอบแรกในวันที่ 11 เมษายน 2560 หลังจากนั้นให้นำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อคัดทีมที่ได้เข้าสู่ Intensive Bootcamp (Pitch day) ในวันที่ 24 เมษายน 2560 แล้วจึงเริ่มคอร์สอบรม Intensive Bootcamp ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2560 และนำเสนอผลงานรอบสุดท้าย ประกาศผลในวัน Demo day ในเดือนสิงหาคมนี้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด