Tesla’s CEO Elon Musk ได้เข้าควบคุมกิจการของ Twitter อย่างเป็นทางการแล้วทำให้ Parag Agrawal CEO ของ Twitter และ Ned Segal CFO ได้โบกมือลา ออกจากสำนักงานใหญ่ในซานฟรานซิสโกและจะไม่กลับมาอีก อีกทั้งรายงานจาก Washington Post กล่าวว่า Vijaya Gadde หัวหน้าฝ่ายนโยบายทางกฎหมายก็ถูกไล่ออกเช่นกัน

เย็นวันพฤหัสบดี Twitter และ Elon Musk ได้ปิดดีลอย่างเป็นทางการตามข้อเสนอในการเข้าซื้อบริษัทโดยจ่ายเงิน 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น เท่ากับประมาณ 44,000 ล้านดอลลาร์

ซึ่งย้อนกลับไปในเดือนเมษายน Twitter ยอมรับข้อเสนอของ Elon Musk ในการเข้าซื้อบริการโซเชียลมีเดียนี้แต่อย่างไรก็ตาม Elon Musk ก็เริ่มสงสัยในความตั้งใจของเขาที่จะปฏิบัติตามข้อตกลง โดยอ้างว่า Twitter ล้มเหลวในการเปิดเผยจำนวนสแปมและบัญชีปลอมในบริการอย่างเพียงพอ ที่ Elon Musk ได้ยื่นขอให้ Twitter เปิดเผยข้อมูลบัญชีผู้ใช้ปลอม เพื่อรับทราบถึงฐานข้อมูลผู้ใช้จริงว่ามีอยู่เท่าไร และนำไปคำนวณมูลค่าดีลเพื่อซื้อกิจการ แต่สุดท้ายแล้ว Twitter ปฏิเสธ หรือไม่สามารถส่งข้อมูลดังกล่าวได้

ผู้พิพากษาที่ดูแลคดีของ Twitter ต่อ Elon Musk ได้ให้เวลาพวกเขาจนถึงวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคมนี้เพื่อบรรลุข้อตกลงนอกศาลหรือจะต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีห้าวันในเดือนหน้า เดิมทีการพิจารณาคดีมีกำหนดจะจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม แต่หลังจากนั้นด้วยคำสั่งของบอร์ด Twitter และ ข้อความส่วนตัวของ Elon Musk ที่หลุดออกมา พวกเขาจึงกลับไปเจรจาอีกครั้ง และในที่สุด Elon musk ก็กลับไปใช้ข้อเสนอเดิมที่ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ตอนนี้เมื่อ Elon Musk เข้าควบคุม Twitter แล้ว มีคำถามต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะเปลี่ยนแปลง เขาบอกว่าจะมีการเลิกจ้าง แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ Elon Musk มีแผนต้องการสร้าง Twitter เป็น "ซูเปอร์แอป" แต่ก็ยังไม่ได้วางแผนว่าจะทำเช่นนั้นอย่างไร เมื่อไหร่ และคาดว่าจะมีการขับไล่ C-suite ออกไป แต่ Musk ยังไม่ได้บอกว่าใครจะช่วยเขาเป็นผู้นำบริษัท

เหตุผลที่ฉันซื้อ Twitter มาก็เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของอารยธรรมที่จะต้องมี Digital Town Square ร่วมกัน ที่ซึ่งความเชื่อที่หลากหลายสามารถถกเถียงกันได้อย่างมีสุขภาพดี โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง 

“ขณะนี้มีอันตรายร้ายแรงที่โซเชียลมีเดียจะแตกออกเป็นปีกขวาสุดและปีกซ้ายสุดซึ่งสร้างความเกลียดชังและแบ่งแยกสังคมของเรามากขึ้น”

Elon musk กล่าว

อ้างอิง

CNBC

Business Insider