มี OpenAI ไม่มี Elon Musk ! หลังจากการประกาศความร่วมมือระหว่าง Apple กับ OpenAI ในงาน WWDC 2024 ด้าน Musk ก็ดูไม่พอใจอย่างมากถึงขั้นจะแบนอุปกรณ์ Apple

ทำไมมี OpenAI แล้วมี Elon Musk ไม่ได้ ?

Elon Musk และ OpenAI เริ่มขัดแย้งกันอย่างรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2018 แล้ว ในปีนี้ Musk ลาออกจากตำแหน่งบอร์ดของบริษัท OpenAI โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่ต้องการมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับ Tesla (ซึ่งตอนนั้น Tesla ก็หันมาโฟกัสเรื่อง AI เช่นกัน) แต่สาเหตุหลักเชื่อว่ามาจากการที่ OpenAI ไม่ตอบรับข้อเสนอการขึ้นเป็น CEO ของ Musk

หลังจากการลาออก เมื่อไหร่ที่ OpenAI มีประเด็น Musk ก็จะออกมาวิจารณ์อยู่บ่อยๆ ซึ่งงาน WWDC 2024 ที่ผ่านมาก็กลายเป็นเชื้อเพลิงที่จุดประเด็นความขัดแย้งเหล่านี้ขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจาก Apple และ OpenAI จะร่วมมือกันเพื่อเอา ChatGPT เข้ามาเสริมให้ Apple Intellingence (AI ในอุปกรณ์ของ Apple) เก่งขึ้น

ตัวอย่าง การเอามาอัปเกรดความสามารถของ Siri เช่น ผู้ใช้สามารถถามคำถามกับ Siri ได้ และหาก Siri คิดว่า ChatGPT สามารถให้คำตอบที่ดีกว่าได้ ก็จะขออนุญาตเพื่อแชร์คำถามกับ ChatGPT แล้วให้ ChatGPT ตอบโดยตรงแบบไม่ต้องเปิดแอป หากคำถามของผู้ใช้มีรูปภาพ, ไฟล์ PDF หรือเอกสารอื่นๆ Siri ก็จะขออนุญาตก่อนแชร์ไฟล์เหล่านี้ไปให้ ChatGPT เช่นเดียวกัน

Musk มองว่านี่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวที่รุนแรง ถ้าจะใช้ ChatGPT จริงก็ควรใช้ผ่านแอปไม่ใช่การรวมเข้ากับ Siri และถ้า Apple รวม ChatGPT เข้าไปในระบบปฏิบัติการ เขาก็จะแบนอุปกรณ์ของ Apple จากบริษัทของเขา 

“ถ้า Apple ดึง (เทคโนโลยี) OpenAI มาใส่ในระบบปฏิบัติการ อุปกรณ์ของ Apple จะถูกแบนในบริษัทของผม นั่นถือเป็นการละเมิดความปลอดภัยที่ยอมรับไม่ได้” Musk โพสต์ผ่าน X 

ส่วนหนึ่งเพราะ Musk เองเชื่อว่า Apple ไม่ได้เข้าใจการทำงานของ OpenAI และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับข้อมูลเมื่อมอบให้กับ OpenAI ไปแล้ว (ซึ่งในทางปฏิบัติผู้ใช้คือผู้ที่ตัดสินใจแชร์ข้อมูลของตน ไม่ใช่ Apple)

ด้าน Apple เน้นยำว่าคำขอแชร์และข้อมูลของผู้ใช้จะไม่ถูกบันทึก ผู้ใช้สามารถควบคุมได้ว่าจะใช้ ChatGPT เมื่อใด และจะต้องขออนุญาตทุกครั้งก่อนที่จะแชร์ข้อมูล

OpenAI ยังระบุด้วยว่า บริษัทไม่ได้จัดเก็บคำขอและปิดบังที่อยู่ IP ของผู้ใช้ และผู้ใช้สามารถเลือกเชื่อมต่อบัญชี ChatGPT เพื่อใช้ฟีเจอร์แบบชำระเงินบนอุปกรณ์ของ Apple ได้โดยทั้งหมดจะเป็นไปตามนโยบายของ ChatGPT

อ้างอิง: techcrunch