ดราม่าไม่หยุด สำหรับมหาเศรษฐีอย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซึ่งกำลังขู่ฟ้องร้ององค์กรสื่อ Media Matters หลังรายงานข่าวว่า พบโฆษณาของแบรนด์ดังอย่าง Apple และ Oracle อยู่ใกล้กับโพสต์ที่มีเนื้อหาสนับสนุนฮิตเลอร์ และพรรคนาซี ส่งผลให้เขาถูกโจมตีอย่างหนักว่าสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเรื่องการต่อต้านชาวยิว
บรรดาแบรนด์ระดับโลกจึงแห่ถอนโฆษณาบนแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจน้อยใหญ่ต่างจัดแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ ตั้งแต่ Black Friday มาจนถึง Cyber Monday
เรื่องนี้สร้างความเสียหายมากแค่ไหน? New York Times รายงานว่า X อาจสูญเสียรายได้จากการโฆษณามากถึง 25 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.64 พันล้านบาท
โดยยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมบันเทิงอย่าง Walt Disney และ Warner Bros Discovery ตัดสินใจถอนโฆษณาออกจากแพลตฟอร์มทันทีนอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่อาจถอนโฆษณากว่า 200 ราย เช่น Airbnb Amazon Coca-Cola และ Microsoft โดยบางบริษัทกำลังพิจารณาว่าจะหยุดลงโฆษณา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รายได้จากโฆษณาของ X หดหาย เพราะมันเริ่มต้นตั้งแต่อีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการ Twitter เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา การปรับโครงสร้างองค์กร ฟีเจอร์บางส่วน และจำกัดการเข้าถึงโพสต์ ทำให้ผู้ใช้ รวมถึงภาคธุรกิจไม่พอใจและหันไปหาแพลตฟอร์มอื่นแทน
จะเรียกว่าเป็นฝันร้ายก็ไม่ผิด เพราะรายได้โฆษณาของบริษัท (เฉพาะในสหรัฐฯ) ลดลงอย่างน้อยเดือนละ 55% (yoy) เมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2022 ที่แบรนด์จะอัดฉีดเม็ดเงินสำหรับการตลาดมากเป็นพิเศษ บริษัทมีรายได้รวมสูงถึง 1.57 พันล้านดอลลาร์ โดย 90% มาจากโฆษณา
ไม่ใช่แค่แบรนด์ดังที่หนีหาย แม้แต่สื่อ นักการเมือง และทำเนียบขาวยังออกมาประณามอีลอน มัสก์ ว่าเขาพยายามไม่มากพอที่จะจัดการเรื่องแนวคิดต่อต้านชาวยิว
แอนน์ ไฮดาลโก (Anne Hidalgo) นายกเทศมนตรีกรุงปารีสประกาศเลิกใช้แอปฯ และโจมตีว่าแพลตฟอร์มนี้ไม่ต่างจาก ‘ท่อน้ำทิ้งมหึมาของโลก’ ที่กำลังบ่อนทำลายประชาธิปไตยด้วยการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกบิดเบือนและข่าวปลอม
หาก X ยังประสบปัญหาด้านชื่อเสียงภาพลักษณ์ และผลประกอบการน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ความฝันของอีลอนที่มุ่งมั่นจะปั้น Super App ก็อาจถึงคราวดับไปในที่สุด และนั่นอาจหมายรวมถึงอนาคตของ X เช่นกัน
อ้างอิง: Reuters
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด