Facebook เผย 3 กลยุทธ์ในการจัดการข่าวปลอม | Techsauce

Facebook เผย 3 กลยุทธ์ในการจัดการข่าวปลอม

วันนี้ Facebook ได้ประกาศเปิดตัวโปรแกรมการตรวจสอบข้อมูลเท็จโดยผู้ตรวจสอบภายนอกในประเทศไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาความโปร่งใสบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและพัฒนาคุณภาพของข่าวสารที่ผู้คนอ่านบนโลกออนไลน์ โดย Facebook จะร่วมมือกับ AFP ซึ่งได้รับการรับรองโดยเครือข่ายการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับนานาชาติ (International Fact Checking Network หรือ IFCN) ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่สถาบันพอยน์เตอร์

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป AFP จะตรวจสอบและประเมินความถูกต้องของเรื่องราวบน Facebook รวมถึงรูปภาพและวิดีโอในประเทศไทย เมื่อผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายนอกประเมินว่าเรื่องราวนั้นๆ เป็นเท็จ ก็จะปรากฏในฟีดข่าวน้อยลง ซึ่งเป็นการลดการเผยแพร่อย่างมีนัยสำคัญ โดย AFP เป็นพันธมิตรด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับโลก ที่ร่วมมือกับ Facebook ในกว่า 20 ประเทศ 

คุณอันจาลี คาปูร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรข่าวประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Facebook ได้ให้ข้อมูลในงานเปิดตัวดังกล่าวว่า “เราตระหนักดีว่าผู้คนต้องการเห็นข้อมูลที่ถูกต้องบน Facebook และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของโปรแกรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยผู้ตรวจสอบภายนอก และได้ร่วมมือกับ AFP สำหรับโปรแกรมดังกล่าวในประเทศไทย เราเชื่อว่าโปรแกรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างชุมชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและครบถ้วนมากยิ่งขึ้นในประเทศไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสที่จะขยายโปรแกรมนี้กับผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับท้องถิ่นในอนาคต”

โปรแกรมนี้มีความสอดคล้องกับขอบข่ายในการดำเนินงานที่มีอยู่ 3 ส่วนของ Facebook เพื่อพัฒนาคุณภาพและความแท้จริงของเรื่องราวบนฟีดข่าว เมื่อผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายนอกเขียนบทความเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาใดเนื้อหาหนึ่ง Facebook จะแสดงบทความเหล่านี้ในบทความที่เกี่ยวข้อง (Related Articles) ทันที โดยจะปรากฏอยู่ด้านล่างของเนื้อหานั้นบนฟีดข่าว นอกจากนี้ ผู้ดูแลเพจและผู้ใช้ Facebook ยังจะได้รับการแจ้งเตือนหากพวกเขาพยายามที่จะแชร์โพสต์หรือได้แชร์โพสต์ที่ถูกประเมินว่าเป็นเท็จ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนในการตัดสินใจอ่าน เชื่อ และแชร์เนื้อหาด้วยตนเอง

คุณแคท บาร์ตัน หัวหน้าหน่วยงานด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ AFP ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “AFP รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายการดำเนินงานด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรามายังประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เรามุ่งมั่นในการเดินหน้ากำจัดข้อมูลเท็จในหัวข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพและวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงสิ่งแวดล้อมและข่าวการเมือง การตรวจสอบข้อเท็จจริงคือแก่นแท้ของสิ่งที่เราทำในฐานะหนึ่งในสำนักข่าวชั้นนำของโลก การขยายโปรแกรมมาสู่ประเทศไทย ทำให้หน่วยงานด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ AFP ประจำภูมิภาคเอเชียมีนักข่าวที่ได้รับมอบหมายในการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 10 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จากออสเตรเลียไปจนถึงปากีสถาน ในระดับโลก หน่วยงานด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ AFP ประจำภูมิภาคเอเชียมีการดำเนินงานที่ครอบคลุมกว่า 20 ประเทศในปัจจุบัน และภายในเร็วๆ นี้ จะให้ข้อมูลด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงใน 8 ภาษา รวมถึงภาษาไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส บาฮาซาของอินโดนีเซีย และอาหรับ”

ภายในงานเปิดตัว ณ สำนักงาน Facebook ประเทศไทยวันนี้ ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญในไทย ได้แก่ รองศาสตราจารย์พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ รักษาการผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ที่มาร่วมให้ข้อมูลเชิงลึกและยกตัวอย่างกรณีศึกษาในการจัดการกับข้อมูลเท็จในช่วงเสวนาอย่างครอบคลุม

คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ รักษาการผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท กล่าวว่า “ข่าวปลอมนั้นไม่ได้เพียงแค่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แต่สามารถสร้างผลกระทบเชิงลบต่อสาธารณชนได้ในหลากหลายรูปแบบ ความล้ำสมัยของเทคโนโลยีทำให้ข่าวปลอมแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และเข้าถึงคนจำนวนมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ดังนั้น ข่าวปลอมจึงมีผลกระทบต่อมุมมองการรับรู้ของสาธารณชนที่มีต่อสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง และยังมีอิทธิพลต่อวิธีการคิดและการตัดสินใจของผู้คนอย่างง่ายดายอีกด้วย”

“การตรวจสอบข้อเท็จจริงสามารถกลายเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อนในโลกปัจจุบัน ซึ่งใครก็ตามสามารถสร้างเนื้อหาที่ไม่เป็นความจริงบนโลกออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย วิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันการตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอมคือการตั้งข้อสงสัยอยู่เสมอ และอย่าแชร์ข่าวหรือเนื้อหาที่ไม่ได้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้” คุณพีรพลกล่าวเสริม

รองศาสตราจารย์พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ในขณะที่การตรวจสอบแหล่งข่าวเป็นสิ่งสำคัญ การเพิ่มความรู้และทักษะความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่คนไทยก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการต่อสู้กับข่าวปลอม หนึ่งในความท้าทายหลักของการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเทศไทยคือ การที่ชุมชนไม่รู้จักวิธีการในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว และแนวโน้มในการใช้อารมณ์เหนือเหตุผลในการประเมินเรื่องราว”

“คนเรามีแนวโน้มที่จะคิดวิเคราะห์น้อยลงเมื่อมีอารมณ์โกรธระหว่างการอ่านบทความข่าว และหลายคนตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอมเพราะเหตุนี้ นอกจากนี้ ผู้คนควรตระหนักให้มากขึ้นว่า ในบางครั้ง พวกเขาอาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นจากการกระทำง่ายๆ อย่างการแชร์เนื้อหาออนไลน์ โซเชียลมีเดียจึงมีบทบาทที่สำคัญในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ด้วยการจัดการวิธีการที่ข้อมูลถูกแชร์ การจัดอันดับการแสดงเนื้อหาในฟีด และช่วยผู้คนในการสังเกตข่าวปลอมผ่านการใช้เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแจ้งเตือน เป็นต้น”

นอกจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยผู้ตรวจสอบภายนอก Facebook ยังสนับสนุนความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้ผู้คนมีทักษะความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการรับข่าวสาร เพื่อการตัดสินใจอ่าน เชื่อ และแชร์ด้วยตนเอง ผ่านการสนับสนุนโปรแกรมด้านการพัฒนาทักษะในการรับข่าวสารต่างๆ ทั่วโลก และการแชร์เคล็ดลับในการช่วยสังเกตข่าวปลอม และให้ข้อมูลเชิงบริบทแก่ผู้คนเกี่ยวกับโพสต์ที่พวกเขาเห็นในฟีดข่าว 

Facebook เปิดตัวโปรแกรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยผู้ตรวจสอบภายนอก ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 และมีพันธมิตรกว่า 50 รายทั่วโลกในปัจจุบัน รวมถึง AFP โดยครอบคลุมกว่า 40 ภาษา

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จับตา 18 อุตสาหกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก สร้างรายได้กว่า 48 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดกว่าเดิม มีอุตสาหกรรมบางกลุ่มที่กำลังมาแรง และเติบโตแบบก้าวกระโดด เราเรียกอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่า 'Arenas' ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้...

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...

Responsive image

พลังงานจากหลุมดำ พุ่งชนวัตถุลึกลับในกาแล็กซี เกิดรอยปริศนารูปตัว V

NASA พบร่องรอยแปลกประหลาดจากการพุ่งชนของลำแสงพลังงานสูงที่มาจากหลุมดำขนาดมหึมาในกาแล็กซี Centaurus A (Cen A) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 12 ล้านปีแสง การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ...