Facebook เตรียมนัดหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีสกุลเงินใหม่ ‘Libra’ | Techsauce

Facebook เตรียมนัดหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย กรณีสกุลเงินใหม่ ‘Libra’

Facebook ได้ทำการขอนัดพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทยในเรื่องสกุลเงินใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นอย่าง ‘Libra’ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Facebook กว่า 50 ล้านคนในไทย

คุณสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยว่า การนัดพูดคุยจะมีกำหนดการออกมาในเร็วๆ นี้ โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ทำการจัดเตรียมทีมงานที่จะทำการศึกษาด้าน "stablecoin" ของ Facebook และเอกสารทางการเงิน และทางทีมยังประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในหลายด้านตั้งแต่ด้านบริการชำระเงินไปจนถึงด้านกฏหมาย

ล่าสุด Facebook ได้เข้าพูดคุยกับหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก ทั้งธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางสิงคโปร์ซึ่งจัดเป็นธนาคารกลางแห่งแรกๆ ที่เข้าพูดคุยเกี่ยวกับแผนการของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากการเปิดตัวล่าสุดของ Libra โดย Facebook จะเป็นก้าวใหม่ของบริษัทที่จะเข้าสู่การบริการด้านการเงินออนไลน์ โดยจากรายงานของ Facebook ระบุว่า Libra จะสามารถใช้ได้จริงและเข้าไปอยู่ในการเป็นเงินฝากของธนาคาร อีกทั้งได้รับการดูแลจากหน่วยงานรัฐเพื่อทำให้สกุลเงินมีความมั่นคงและใช้ในการลงทุนและชำระได้

ด้วยจำนวนผู้ใช้ Facebook หลายล้านคนและความร่วมมือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินอย่าง Visa คาดว่า Libra จะมีศักยภาพพอสำหรับใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินและขยายการเข้าถึงธนาคาร อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกยังคงระมัดระวังการใช้งานต่อไป ประเทศไทยคือหนึ่งในฐานสำคัญของ Facebook ในเอเชีย

คุณสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา กล่าวเสริมว่า “ประโยชน์และความเสี่ยงของผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทิลคือเรื่องหลักที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสนใจ เราจะทำการศึกษารูปแบบของสกุลเงิน กลไก และความปลอดภัย เพื่อปกป้องผู้ใช้งานหากเกิดปัญหาขึ้น”

นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับธนาคารกลางในภูมิภาคอื่น ๆ ในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินใหม่และสร้างแพลตฟอร์มสำหรับใช้ร่วมกัน ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรมทางการเงินและเสริมสร้างความปลอดภัยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสกุลเงินใหม่รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธนาคารทั่วโลก ภายใต้ความร่วมมือระดับทวิภาคีในการชำระเงินด้วย QR code อีกทั้งในตอนนี้ ประเทศไทยกำลังพัฒนาบริการการชำระเงินข้ามประเทศกับประเทศกัมพูชาซึ่งคาดว่าจะดำเนินการในปีนี้ และบริการนี้ได้เปิดใช้แล้วระหว่างประเทศไทย ลาว และสิงคโปร์

“ไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในตอนนี้สำหรับการให้บริการทั่วทั้งภูมิภาค แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละประเทศ อย่างปัจจัยต่างๆ ของเศรษฐกิจในด้านพฤติกรรมทางการเงินของผู้บริโภค, การพัฒนาเศรษฐกิจ, ระบบนิเวศ, กฎระเบียบและกฎหมายดังนั้นมันจะค่อยๆได้รับการพัฒนา" คุณสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา กล่าว

ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะอนุญาตให้สถาบันการเงินนำเสนอ e-Know Your Customer (e-KYC) โดยใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ในการเปิดบัญชีเงินฝากใหม่ในเดือนนี้ โดยจะมีการเปิดตัวบริการดังกล่าวที่งาน Bangkok Fintech Fair ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2019

อ้างอิง: Bangkokpost

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

จับตา 18 อุตสาหกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจโลก สร้างรายได้กว่า 48 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2040

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดกว่าเดิม มีอุตสาหกรรมบางกลุ่มที่กำลังมาแรง และเติบโตแบบก้าวกระโดด เราเรียกอุตสาหกรรมเหล่านี้ว่า 'Arenas' ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็ต้...

Responsive image

Gemini 2.0 คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ? สรุปของใหม่กับ AI ที่เก่งที่สุดของ Google

หลังจาก Google เปิดตัว Gemini 1.0 ซึ่งเป็น AI แบบ Multimodal และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้มากถึง 2 พันล้านคนทั่วโลก ล่าสุดได้มีการอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Gemini 2.0 ซึ่งเป็น...

Responsive image

พลังงานจากหลุมดำ พุ่งชนวัตถุลึกลับในกาแล็กซี เกิดรอยปริศนารูปตัว V

NASA พบร่องรอยแปลกประหลาดจากการพุ่งชนของลำแสงพลังงานสูงที่มาจากหลุมดำขนาดมหึมาในกาแล็กซี Centaurus A (Cen A) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 12 ล้านปีแสง การค้นพบนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ...