อดีต CTO OpenAI เปิดตัว Thinking Machines Lab สตาร์ทอัพ AI แห่งใหม่ | Techsauce

อดีต CTO OpenAI เปิดตัว Thinking Machines Lab สตาร์ทอัพ AI แห่งใหม่

Mira Murati อดีต Chief Technology Officer (CTO) จาก OpenAI เปิดตัวสตาร์ทอัพใหม่ ชื่อว่า "Thinking Machines Lab" ซึ่งแน่นอนว่าจุดโฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ AI

อดีต CTO OpenAI  เปิดตัว Thinking Machines Lab สตาร์ทอัพ AI แห่งใหม่

Thinking Machines Lab คืออะไร ตั้งขึ้นมาเพื่ออะไร?

Murati มองว่าแม้ AI จะพัฒนาไปไกล แต่ยังมี “ช่องว่างสำคัญ” ที่ต้องแก้ไข

ตอนนี้ AI ก้าวหน้าเร็วมาก แต่คนทั่วไปยังเข้าใจมันได้ยาก และการพัฒนา AI ก็ยังถูกจำกัดอยู่แค่ในแล็บวิจัยใหญ่ๆ – Thinking Machines Lab

เป้าหมายหลักของ Thinking Machines Lab คือการสร้างเครื่องมือ AI ที่ "ตอบโจทย์ความต้องการและเป้าหมายเฉพาะตัวของผู้ใช้งานแต่ละคน" พูดง่ายๆ ก็คืออยากให้ AI เข้าใจง่าย ปรับแต่งได้ และเก่งกาจกว่าเดิม โดยเน้นไปที่:

  • Multimodal AI – ทำให้ AI ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้แบบ “คู่คิด” ไม่ใช่แค่เครื่องมือ
  • ปรับตัวเก่ง: พัฒนา AI ที่เรียนรู้และปรับตัวตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคนได้
  • ใช้งานได้หลากหลาย: ไม่จำกัดอยู่แค่งานเฉพาะทาง แต่สามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายสาขา เช่น วิทยาศาสตร์ การเขียนโปรแกรม และงานวิจัย

AI ที่ดีที่สุดจะช่วยให้เกิดการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน– Thinking Machines Lab

นอกจาก Mira Murati จะนั่งแท่น CEO แล้ว ยังมี John Schulman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI มาเป็น Chief Scientist และ Barret Zoph อดีต Chief Research Officer ของ OpenAI มาเป็น CTO อีกด้วย เรียกได้ว่าทีมงานระดับเทพทั้งนั้น

Thinking Machines Lab ให้ความสำคัญอย่างมากกับ AI Safety หรือความปลอดภัยของ AI โดยมีเป้าหมาย 3 ด้านหลักๆ คือ 

  1. ป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด – มีมาตรการชัดเจนเพื่อป้องกันการนำ AI ไปใช้ในด้านที่ไม่เหมาะสม
  2. แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด – เผยแพร่แนวคิดและเครื่องมือให้วงการเทคโนโลยีใช้ AI ได้อย่างปลอดภัย
  3. สนับสนุนงานวิจัยด้าน AI Alignment – เปิดเผยโค้ด ชุดข้อมูล และรายละเอียดของโมเดล เพื่อให้คนในวงการสามารถศึกษาและควบคุม AI ได้ดีขึ้น

AI ที่ดีไม่ใช่แค่ฉลาดขึ้น แต่ต้องถูกใช้อย่างถูกต้อง และสร้างประโยชน์ให้กับโลกจริงๆ – Thinking Machines Lab

ทำไม Mira Murati ถึงออกมาตั้งบริษัทเอง?

Murati ทำงานที่ OpenAI มานานกว่า 6 ปี เริ่มจากตำแหน่ง VP of Applied AI and Partnerships ในปี 2018 ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็น CTO ในปี 2022 เธอมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ChatGPT, DALL-E และ Codex ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง GitHub Copilot

ช่วงที่ Sam Altman ถูกปลดจาก OpenAI เธอเคยรับตำแหน่ง CEO ชั่วคราว อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่ Altman จะกลับมา หลังจากลาออกจาก OpenAI เธอบอกว่าอยาก “สำรวจเส้นทางของตัวเอง”

ฉันอยากสร้างอะไรใหม่ๆ ที่ฉันเชื่อว่ามีความสำคัญ – Mira Murati

ซึ่งเธอไม่ใช่คนเดียวที่ออกจาก OpenAI แล้วไปตั้งบริษัทเอง ก่อนหน้านี้ Ilya Sutskever ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ก็เปิดตัว Safe Superintelligence ขณะที่ Anthropic ก็เป็นอีกบริษัทที่ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน OpenAI

ใครบ้างที่ร่วมงานกับ Thinking Machines Lab

มีข่าวลือว่า Mira Murati ดึงตัวนักวิจัยและทีมงานเก่งๆ จากบริษัท AI ชั้นนำมากมายมาร่วมงานด้วย ซึ่งรายชื่อที่เปิดเผยออกมาก็มีทั้งจาก OpenAI, Character AI และ Google DeepMind รวมแล้ว 29 คน

ระดมทุนได้เท่าไหร่

มีข่าวลือว่า Mira Murati กำลังเจรจาเพื่อระดมทุนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัท VC (Venture Capital) แต่ทาง Thinking Machines Lab ยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวนี้

สรุป

Thinking Machines Lab เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองมากๆ  ด้วยทีมงานระดับท็อป วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และความตั้งใจที่จะพัฒนา AI ที่ “เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์และปลอดภัย” คำถามที่เหลืออยู่คือ Thinking Machines Lab จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการ AI ได้มากน้อยแค่ไหน? คงต้องติดตามกันต่อไป

อ้างอิง: techcrunch

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

SC Asset ปรับแผนปี 68 ตั้งเป้าโต 11% ยอดขาย 2.6 ล้าน พร้อมเดินหน้ารีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 18 ปี

คุณณัฐพงศ์ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SC Asset กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2024 ที่ผ่านมาว่า "เป็นปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเจอกับภูเขาอุปสรรค 3 ลูก ทั้งภาวะหนี้ครัวเรือนส...

Responsive image

Microsoft เปิดตัว Majorana 1: จุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีควอนตัม

ค้นพบเทคโนโลยีใหม่จาก Microsoft Majorana 1 ซึ่งเป็น Quantum Processing Unit (QPU) ตัวแรกของโลกที่ใช้ Topological Qubit และวัสดุพิเศษอย่าง Topoconductor ช่วยเพิ่มเสถียรภาพและประสิทธ...

Responsive image

ทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน เป็นไปได้จริงด้วย AI ส่องโอกาสและความท้าทายที่ต้องรับมือ

กระแสการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่การจะก้าวไปสู่การทำงานรูปแบบใหม่นี้ได้จริง จำเป็นต้องมีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และหนึ่งในป...