ผู้บริหารของ Google ส่งสัญญาณรหัสแดง หลังการเปิดตัวของ ChatGPT ได้รับความนิยมสูง โดย Sundar Pichai CEO ของ Alphabet บริษัทแม่ Google เร่งประชุมทีมกลยุทธ์ AI ของบริษัท พร้อมสั่งการให้ทุกฝ่ายหาทางรับมือ หวั่น ChatGPT จะขึ้นมาเป็นภัยคุกคามของธุรกิจ Search Engine
รายงานจาก The New York Times ยังระบุด้วยว่า ทีมวิจัยและทีม Trust & Safety ของบริษัท ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ชิ้นใหม่ โดยพนักงานบางคนได้รับมอบหมายให้สร้างผลิตภัณฑ์ AI ที่สามารถสร้างงานศิลปะและกราฟิกได้ คล้ายกับที่ DALL-E ของ OpenAI ที่ตอนนี้มีผู้ใช้นับล้านแล้ว
เดิมที Google เคยประกาศว่าตนไม่มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI เพื่อสู้ศึกกับ OpenAI แต่กระนั้นการกลับลำของ Google ครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความนิยมที่เพิ่มขึ้นจนกระตุ้นความสนใจของยักษ์ใหญ่ สมาชิกภายในบริษัทต่างถกเถียงกันและหวั่นว่า เทคโนโลยีใหม่นี้อาจส่งผลส่งผลกระทบต่อรูปแบบธุรกิจ Search Engine รวมถึงรายได้ในส่วนโฆษณาของ Google ซึ่งรายได้ในส่วนนี้ราว 208,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 81 % ของรายได้ทั้งหมดของ Alphabet ในปีที่ผ่านมา
ประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้จากกระบวนการถามตอบระหว่าง ChatGPT และ Google นั้น เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้สองแพลตฟอร์มต่างกัน ในขณะที่เมื่อเราค้นหาใน Google เว็บไซต์จะแสดงผลเป็นรายการหรือคำที่เกี่ยวข้องออกมามากมายจากหลายแหล่ง แต่ ChatGPT ให้คำตอบเพียงชุดคำตอบเดียวก็หนึ่งคำถามที่รูปแบบเหมือนการสนทนากับผู้ใช้งานได้เหมือนมนุษย์
Sridhar Ramaswamy อดีตผู้ดูแลทีมโฆษณาของ Google กล่าวว่า "ChatGPT มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า" โดยในการให้สัมภาษณ์ผ่าน Bloomberg เขาระบุเพิ่มเติมว่า "เป้าหมายของ Google Search คือการให้คุณคลิกไปที่ลิงก์ไปยังหน้าเว็บเพจ ซึ่งตามทฤษฎีก็ คือ โฆษณาและเนื้อหาอื่นๆ ทั้งหมดในหน้าเป็นเพียงส่วนเติมเต็ม”
แม้การใช้บอทเพื่อเขียนเรียงความ เขียนโค้ดแทนได้ จะดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ใช้งาน แต่ก็ยังพบความผิดพลาดของบอทอยู่มาก โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน AI กล่าวตรงกันว่า ChatGPTยัง ไม่มีกระบวนการในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ง่ายๆ คือ ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือข้อเท็จจริง
อีกด้านหนึ่งการที่แชทบอทสามารถเจเนอเรทคำตอบขึ้นมาเอง กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นักวิจัย AI เรียกว่า Hallucinations หรืออาจเรียกได้ว่า AI เกิดภาพหลอน อย่างที่พบเห็นทั่วไปตัวบอทอาจสร้างคำตอบที่ไม่เหมาะสมบนพื้นฐานอคติ ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเชื้อชาติ เหยีดเพศ ตามที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย
ความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากบอทเหล่านี้ ทำให้ Google เองเคยลังเลที่จะเปิดตัว AI ของตนที่ชื่อ LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) แบบจำลองภาษาสำหรับแอปพลิเคชันการสนทนาของ Google สู่สาธารณะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
Jeff Dean หัวหน้าฝ่าย AI ของ Google ระบุว่า "แม้ว่าเทคโนโลยีของ Google จะมีความสามารถพอๆ กับ Chatbot ที่กำลังได้รับความนิยม แต่บริษัทอาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ Chatbot"
เช่น ระบบยังแก้ปัญหาเรื่องอคติทางข้อมูลหรือสร้างข้อมูลเท็จอยู่ ซึ่งความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จะทำให้เสียชื่อเสียง เนื่องจาก Google เป็นบริษัทใหญ่ที่มีผู้ใช้กว่าพันล้านคน
อย่างไรก็ตาม คาดว่า Google คงมีอะไรมาโชว์พวกเราแน่นอนในปี 2023 เนื่องจากมีรายงานว่าบริษัทกำลังมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่กับการพัฒนา AI เราอาจได้เห็นผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในการประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ประจำปีของ Google หรือ I/O ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
อ้างอิง
Google's management has reportedly issued a 'code red' amid the rising popularity of the ChatGPT AI
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด