โปรแกรมเจนภาพด้วย AI ต้องสะเทือน เมื่อเจ้าตลาด search engine อย่าง Google เปิดตัว Search Generative Experience รุ่นใหม่ สามารถเจนรูปด้วย AI ได้แล้วตั้งแต่วันนี้

Search Generative Experience (SGE) จาก Google เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยความสามารถแบบ chatbot ผ่านการสั่งงานด้วย text prompt ด้วยฐานข้อมูลของ Google หนึ่งในเจ้าตลาด search engine จึงสามารถให้ข้อมูลที่ละเอียดแม่นยำได้ตามต้องการ 

ในเดือนตุลาคม Google ได้อัพเดทความสามารถเพิ่มเติมของระบบ Search Generative Experience (SGE) ให้มากกว่าการเป็น chatbot เพิ่มสามารถเจนภาพด้วย AI ผ่าน text prompt ขับเคลื่อนโดยโมเดล Imagen AI  

Google กล่าวว่า ระบบนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการหาภาพ แต่ไม่สามารถหาได้แบบตรงใจ 100% แค่พิมพ์ข้อความที่ต้องการในโปรแกรม Search Labs ของ Google รอเพียงไม่กี่อึดใจ Search Generative Experience จะเจนภาพออกมาสองสามภาพให้ได้เลือกตามต้องการ

แต่ถ้าหากภาพที่ออกมายังไม่ตรงใจหรืออยากจะปรับอีกนิด ก็สามารถแก้ไขได้ง่าย เพียงเข้าไปแก้ข้อความ text prompt เดิม ก็สามารถที่จะปรับจากรูปที่ได้ให้ตรงใจยิ่งขึ้น

ไม่เพียงใช้งานผ่าน Search Labs เท่านั้น แต่สามารถใช้งานได้ผ่านระบบ Google Photo เช่นกัน Google จะเสนอกล่องข้อความให้เลือกเจนภาพด้วย AI ได้ในแบบของตัวเอง โดยรูปที่ได้จะแสดงผลในแถบด้านข้าง

Hema Budaraju ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของ Google ได้กล่าวใน blog ว่า Google ได้ให้ความสำคัญกับระบบ เพื่อไม่ให้มีการใช้ภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือขัดกับความปลอดภัยของบริษัท 

ทุกภาพที่ถูกเจนด้วย Search Generative Experience จะมีการลงลายนํ้าว่าถูกสร้างโดย AI ในระยะแรกของการเปิดตัว จะยังไม่อนุญาตให้เจนภาพของผู้มีชื่อเสียง และกำหนดอายุของผู้ใช้งานเอาไว้ที่ 18 ปีขึ้นไป 

ในส่วนของระบบ chatbot เดิมก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเช่นกัน Search Generative Experience สามารถสร้างดราฟท์ โดยรวมจากคำค้นหาของเรา สั่งความสั้นยาวเพิ่มเติมได้ผ่าน text prompt และยังส่งดราฟท์ผ่าน Gmail หรือ Google Docs ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันระบบนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองใช้แบบภาษาอังกฤษ ในสหรัฐอเมริกา

นับตั้งแต่เปิดตัว Search Generative Experience ในเดือนพฤษภาคม Google ได้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องด้วยฟีเจอร์ที่อัพเดทเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดตัวการเจนภาพด้วย AI ที่มีการแข่งขันกันสูงในกลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีหลาย ๆ เจ้า ถือเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่จะสามารถเปรียบเทียบการใช้งานให้เหมาะสมกับตนเอง รวมถึงยังสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นได้ในอนาคต

อ้างอิง: theverge, blog.google