ธนาคารออมสิน-ทิพย-บางจาก ร่วมทุนตั้ง Non Bank รัฐ ลุยธุรกิจสินเชื่อที่ดิน-ขายฝาก ดอกเบี้ยต่ำ | Techsauce

ธนาคารออมสิน-ทิพย-บางจาก ร่วมทุนตั้ง Non Bank รัฐ ลุยธุรกิจสินเชื่อที่ดิน-ขายฝาก ดอกเบี้ยต่ำ

ธนาคารออมสิน จับมือ ทิพย และ บางจาก เดินหน้าจัดตั้ง Non Bank รัฐ รุกธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก เบื้องต้นคาดว่าจะคิดดอกเบี้ยต่ำ 8-9% หวังดึงดอกเบี้ยตลาดให้ลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยที่ออมสินจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 49% ส่วนที่เหลืออีก 51% จะเป็นของทิพย และบางจาก ซึ่งเบื้องต้นจะประเดิมทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน ก.ย. - ต.ค. 65 นี้ 

Non Bank

ผู้สื่อข่าวได้มีการรายงานว่า ภายในสัปดาห์นี้ ธนาคารออมสิน จะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมทุนธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก กับ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งบริษัทขึ้นมาทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินโดยตรง ซึ่งเบื้องต้นมีการระดมทุนจดทะเบียน 1 พันล้านบาท มีธนาคารออมสินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 49% ส่วนที่เหลืออีก 51% เป็นการร่วมทุนของบางจาก และทิพย กรุ๊ป จากนั้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2565

การร่วมมือครั้งนี้เป็นการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ ไม่ได้เข้าไปเทคโอเวอร์บริษัทอื่น โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยที่เป็นธรรม โดยในช่วงแรกจะเริ่มเข้าไปแข่งขันในสินเชื่อที่ดินและขายฝากก่อน เพราะที่ผ่านมามีการคิดดอกเบี้ยสูงมาก จึงจะเข้าไปแข่งทำให้ดอกเบี้ยตลาดลดลงตามนโยบายของรัฐบาล โดยเบื้องต้นจะคิดดอกเบี้ยประมาณ 8-9% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยในตลาดที่เก็บสูงถึง 15-30% และในระยะต่อไปบริษัทมีแผนเข้าไปประกอบธุรกิจสินเชื่อบุคคลอีกด้วย

การจัดตั้งบริษัทสินเชื่อที่ดินและขายฝาก จะมีสถานะเป็นนอนแบงก์รัฐ

ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทสินเชื่อที่ดินและขายฝาก จะมีสถานะเป็นนอนแบงก์รัฐ โดยพันธมิตรทั้งหมดที่เข้าร่วม จะมีหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจเป็นผู้หุ้นอยู่ เช่น ออมสินมีรัฐบาลเป็นประกัน ขณะที่ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยเป็นถือหุ้นใหญ่ ส่วน บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น ก็มีสำนักงานประกันสังคม กองทุนรวมวายุภักษ์ และกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นหลัก

จากการร่วมมือนี้ จะช่วยให้เกิดการนำเครือข่ายเข้ามาสนับสนุนการปล่อยกู้ โดยออมสินมีความเชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อลูกค้ารายย่อย และมีสาขามากกว่า 1,080 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจประกันและมีทีมนักสำรวจที่มีความพร้อม ส่วนบางจาก มีสถานีบริการน้ำมันกระจายมากถึง 1,233 แห่งทั่วประเทศ

ส่วนแนวทางการบริหาร ออมสินจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย โดยการปล่อยกู้เบื้องต้นคำนวณการปล่อยสินเชื่อสูงสุด 75% จากราคาประเมินที่ของกรมธนารักษ์ หรือ 50% ของราคาตลาด ขณะเดียวกันจะเน้นเลือกกลุ่มที่ดินที่มีศักยภาพ ไม่เลือกที่ดินตาบอด หรือที่ดินที่มีการขุดหน้าดินออกไปขายแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจด้วย ส่วนการทำธุรกิจขายฝาก ก็จะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณา และวงเงินสินเชื่อที่ยืดหยุ่นมากกว่าสินเชื่อที่ดิน

อ้างอิง matichon

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...