กัชคลาวด์ เผยข้อมูลการตลาดดิจิทัลไตรมาสแรกท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 | Techsauce

กัชคลาวด์ เผยข้อมูลการตลาดดิจิทัลไตรมาสแรกท่ามกลางการระบาดของ COVID-19

กัชคลาวด์ (Gushcloud) ผู้นำด้านการตลาดดิจิทัลและสื่อบันเทิงระดับโลกเผยถึงความมั่นคงของบริษัทท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรก ปี 2563 ของบริษัทชี้ให้เห็นว่าสามารถทำรายได้ได้สูงขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมา

ด้วยการทำงานร่วมกันของสำนักงานทั้ง 15 แห่ง ใน 11 ประเทศทั่วโลกและมีอินฟลูเอนเซอร์ในสังกัดกว่า 300 คน อีกทั้งยังมีคอนเนคชันกับอินฟลูเอนเซอร์มากกว่า 30,000 คน ทำให้กัชคลาวด์ยังคงได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ต่าง ๆ ในการทำงานท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่มั่นคงนี้

 ในไตรมาสแรกของปี บริษัทกัชคลาวด์แสดงความเป็นผู้นำด้านอินฟลูเอนเซอร์ โดยการทำสัญญากับอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังทั่วโลก ประกอบด้วย Lily Maymac (ออสเตรเลีย), The Prince Family (สหรัฐอเมริกา), Kmoore the Goat (สหรัฐอเมริกา), Reomit (เกาหลีใต้), Jane Chuck (มาเลเซีย), Ying Tze (มาเลเซีย) และ บิ๊งโกะ ภาพฟ้า (ประเทศไทย) 

 “ช่วงเดือนมกราคมที่ไวรัสเริ่มระบาดนั้น ทั้งแบรนด์และลูกค้าต่างก็มีความกังวลในการลงเงินโฆษณา แต่จะเห็นได้ว่าในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แบรนด์ต่าง ๆ มีความเชื่อมั่นในการทำการตลาดแบบดิจิทัลมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้เวลากับดิจิทัลคอนเทนต์มากยิ่งขึ้น” กล่าวโดย อัลเทีย ลิม ประธานผู้บริหารกลุ่มบริษัทกัชคลาวด์

 ข้อมูลจากรายงานของ Tubefilter พบว่ามูลค่า CPM ในการทำโฆษณาออนไลน์นั้นลดลง 15 - 30% แต่ในขณะเดียวกันงบประมาณด้านการทำโฆษณานั้นก็ถูกปรับลงเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามบริษัทกัชคลาวด์ยังยึดมั่นที่จะให้บริการอย่างเต็มที่และเตรียมขยายธุรกิจเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น

 “ในขณะที่งบประมาณด้านการตลาดดิจิทัลลดลง ธุรกิจของเรากลับกำลังเติบโตมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแบรนด์และลูกค้าต่าง ๆ เลือกที่จะร่วมงานกับกัชคลาวด์ เพราะเชื่อมั่นในกลยุทธ์และความสามารถในการดำเนินงานของเรา รวมไปถึงเสถียรภาพทางการเงินของเราอีกด้วย” นายแอนดริว ลิม ซีเอฟโอของบริษัทกัชคลาวด์ กล่าว

 นอกจากนี้ การที่กัชคลาวด์มีรากฐานที่มั่นคงในทุกออฟฟิศนั้น ยังทำให้กัชคลาวด์ยืนหยัดได้ในสถานการณ์ที่ทั้งโลกได้รับผลกระทบจาก COVID-19

 การรณรงค์ให้กักตัวอยู่บ้าน (Social distancing) นั้นส่งผลกระทบต่อการลงเงินเพื่อทำโฆษณา โดยเฉพาะการโฆษณาผ่านสื่อนอกบ้านหรือ Out-of-home advertising  อีกทั้งการระบาดของโรคจะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ใช้งบเพื่อทำการโฆษณาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้โดย eMarketer ถึง 20.3 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามการระบาดได้ก่อให้เกิดการทำการตลาดดิจิทัลในรูปแบบใหม่และโอกาสใหม่ ๆ

 ในช่วงที่ผู้บริโภคเก็บตัวอยู่บ้านนั้นยอดการใช้งานบนแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์และการเสพสื่อความบันเทิงแบบดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้น จนอาจกล่าวได้ว่าแม้ไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการโฆษณาและการตลาด แต่ก็ทำให้ผู้บริโภคหันไปใช้อีคอมเมิร์ซและทำการซื้อขายผ่านการไลฟ์สตรีมมากขึ้นเช่นกัน

 กัชคลาวด์ ได้เปิดตัวโปรเจคไลฟ์คอนเมิร์ซขึ้นที่สิงคโปร์ โดยมี Nurul Aini (Life with Nurul Aini) และ Eunice Annabel Lim (Vibes with Eunice Annabel) เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งทั้งสองคนสามารถทำเงินรวมกันในเอพพิโซดเปิดตัวได้กว่า 3,500 ดอลาร์สิงคโปร์ หรือ ประมาณ 80,000 บาท ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

 “การไลฟ์คอมเมิร์ซในจีนได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราคาดว่าประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จะเป็นแบบเดียวกัน จะเห็นได้ว่าขณะนี้ยอดการใช้งานและรับชมไลฟ์นั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงตัดสินใจลงทุนในตลาดไลฟ์สตรีมมิงเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสและปูทางให้กับอินฟลูเอนเซอร์และทาเลนต์ในสังกัด ซึ่งเราเชื่อว่านี่เป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของดิจิทัลคอนเทนต์ ” นายแอนดริว กล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...

Responsive image

Apple Vision Pro ขายไม่ดีอย่างที่คิด Apple ลดคาดการณ์ยอดขายกว่าครึ่ง ปรับแผนใหม่

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple เผยว่า Apple ได้ลดตัวเลขยอดขาย Apple Vision Pro ในปีนี้เหลือเพียง 400-450,000 เครื่องเท่านั้น ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ (มากกว่า 700–800,000 เครื่อง)...