หน่วยงานกำกับดูแลฮ่องกงร้องธนาคารให้บริการบริษัทคริปโต ปูทางเป็นศูนย์กลาง Digital asset

หน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกงกำลังเรียกร้องให้ธนาคารเปิดให้บริการกับกลุ่มบริษัทด้าน Virtual Assets เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ เช่น การจ่ายค่าเช่าสำนักงาน เงินเดือนพนักงาน ผลักดันให้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ 

เตรียมตัวเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่

ธนาคารกลาง (Hong Kong Monetary Authority) และ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Securities and Futures Commission)ได้เรียกร้องขอให้ธนาคาร ให้บริการกับธุรกิจคริปโตในการประชุมกับตัวแทนจากอุตสาหกรรมคริปโตและธนาคารใหญ่อย่าง HSBC, Standard Chartered และ Bank of China Communications

ซึ่งในการประชุมมีการพูดคุยถึงเรื่องข้อกำหนดและความเสี่ยงของบัญชีบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ โดยมีกลุ่มธนาคารกว่า 20 แห่ง และ กลุ่มบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล 20 บริษัท รวมทั้งผู้จัดการสินทรัพย์และแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย ที่ได้รับอนุญาตเข้าร่วม 

มันเป็นเดินหน้าที่สร้างสรรค์และส่งข้อความถึงทุกคนว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบร่วมกัน 

                                 ผู้เข้าร่วมประชุมท่านหนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนาม กล่าว


ธนาคารกลางฮ่องกง ระบุว่าบริษัทสินทรัพย์เสมือนนั้นไม่ผิดกฎหมายในฮ่องกง ไม่เหมือนกับใน จีนแผ่นดินใหญ่ที่ทุกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่และสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย 

บริษัทสตาร์ทอัพด้านสินทรัพย์ดิจิทัลหลายแห่งกล่าวว่าพวกเขาประสบปัญหาในการเปิดบัญชีธนาคารในฮ่องกงแม้ว่าจะมีการผลักดันอย่างจริงจังเพื่อดึงดูดบริษัทในด้านนี้ 

ขณะที่ผู้ให้กู้บางรายรวมถึง Bank of China Communications, China Citic Bank และ ZA bank ซึ่งเป็นธนาคารเสมือน( Virtual Bank) ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทประกันของจีนอย่าง Zhongan Financial Services ที่ให้บริการบัญชีแก่บริษัทเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี่ อย่างเปิดกว้าง

ผู้ประกอบการจำนวนมากกล่าวว่าธนาคารมีแนวโน้มที่จะปฏิเสธทันทีที่กล่าวถึงสินทรัพย์ดิจิทัล สวนกระแสกับที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามดึงดูดให้มีการยอมรับบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น

แก้ไขกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การล่มสลายของ FTX บริษัทผู้ให้บริการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทางรัฐบาลฮ่องกงได้แก้ไขกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินโดยกำหนดให้การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งหมดต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์

SFC หรือ  คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ได้เตรียมการสรุป กฎระเบียบสำหรับ ตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่แบบรวมศูนย์ที่จะมีผลในเดือนมิถุนายน 

จะมีอนุญาตให้ นักลงทุนรายย่อยซื้อขาย Bitcoin และ Ether ได้ โดย ธนาคารกลางฮ่องกงจะมีการ ออกพันธบัตรสีเขียวที่เป็นโทเค็นในเดือนกุมภาพันธ์ และทำการศึกษา Stablecoin

ฮ่องกงกำลังวางแผนที่จะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ทำให้บริษัทหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รวมถึงทั่วโลกต่างถูกดึงดูดชักชวนเข้าไปตั้งบริษัทที่ฮ่องกง เนื่องจาก

บริษัทเหล่านี้ก็กำลังหลีกหนีกฎระเบียบของประเทศตนเองที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ ตัวอย่างเช่น Huobi ที่เตรียมย้ายบริษัทไปตั้งที่ฮ่องกง รวมถึงบริษัทอื่นๆที่กำลังทำใบขออนุญาตไปจัดตั้งบริษัทที่ฮ่องกง 

การผลักดันครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทางเศรษฐกิจดิจิทัลของฮ่องกงที่ในอนาคตอาจกลายเป็นศูนย์กลาง ขนาดใหญ่ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ในอนาคต 

ที่มา : Nikkei

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ปฏิวัติวงการวัสดุศาสตร์! นักวิจัยสร้าง ‘Structural Color’ เปลี่ยนสีได้ดั่งใจ ไม่พึ่งสารเคมี

นักวิจัย University of Florida พัฒนาวัสดุอัจฉริยะเปลี่ยนสีได้ทันทีด้วย Vanadium Dioxide ไม่ง้อสีย้อมเคมี ใช้หลักการ Structural Color ประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ่งทอ แฟชั่น และชุดพรางตัวทห...

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...