เมื่อวันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ณ Changi Business Park บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนอย่าง Huawei ได้เปิดตัวห้องทดลองเพื่อพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์(AI) แห่งใหม่ในประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ  โดยมีจุดประสงค์ใช้เป็นพื้นที่ฝึกเหล่าสถาปนิก AI จำนวน 100 คนและนักพัฒนา AI 1,000 คน รองรับการเติบโตด้านเทคโนโลยี AI ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยทุ่มเงินสร้างมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (13.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) เพื่อสร้างห้องปฏิบัติการ AI แห่งแรกในสิงคโปร์โดยมีการนำศักยภาพ 5G มาใช้ในศูนย์ทดลอง นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถใช้พื้นที่ทดสอบแอพพลิเคชั่นและสถานการณ์ 5G ที่หลากหลายบนโครงการวิจัยและพัฒนา AI ซึ่งเปิดให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางเข้ามาใช้พื้นที่ได้

Credit: LIANHE ZAOBAO 

Nicholas Ma ( International chief executive) ของ Huawei กล่าวว่า "เมื่อใดก็ตามที่ฉันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเทคโนโลยีในสิงคโปร์ผู้คนกำลังถามฉันเกี่ยวกับการเพิ่มความสามารถที่นี่มีความต้องการความสามารถด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นในทุกอุตสาหกรรมและเราต้องการช่วยเติมเต็มช่องว่างนั้นหวังว่าโดยการทำเช่นนั้น ช่วยเราในระยะยาวและสนับสนุนธุรกิจของเรา "

บริษัทคาดหวังที่จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI และดึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้มาใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดซึ่งการเปิดห้องทดลองใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ  หลังจากการเปิดตัวห้องทดลองด้าน AI ในประเทศสิงคโปร์ รองนายกรัฐมนตรี Heng Swee Keat ได้เปิดตัวนโยบายของประเทศด้านเทคโนโลยี AI ของสิงคโปร์ซึ่งเป็นแผนในการควบคุมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจ

นอกเหนือจากโครงการพัฒนาความสามารด้านเทคโนโลยี AI ที่เกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์แล้ว Huawei ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Nanyang Polytechnic ในวันเดียวกันเพื่อร่วมหาเเนวทางการเพิ่มขีดความสามารถเทคโนโลยีผ่านโครงการพัฒนาความสามารถที่หลากหลาย อาทิ ในด้าน AI ,5G และเทคโนโลยี cloud

นอกจากนี้ Huawei ได้ลงนามความร่วมมือกับ CapitaLand และธุรกิจจีนของสิงคโปร์เพื่อดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาฝึกงานเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษามหาวิทยาลัยสิงคโปร์ได้เข้าฝึกงานในประเทศจีน

Mr. Ma กล่าวว่า: "ในอดีตเราได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการและหลักสูตรกับมหาวิทยาลัยและ Polytechnics ในประเทศ แต่ในปีนี้เราต้องการทำสิ่งที่แตกต่างเพื่อสร้างการเติบโตในวงการเทคโนโลยีให้ทันต่อการเปลี่ยนเเปลงในยุคปัจจุบัน"

ข้อมูลจาก straitstimes.com