iPrice Group รับเงินระดมทุน 10 ล้านดอลลาร์ ระดับ Series B จาก ACA รวมทั้ง LINE Ventures | Techsauce

iPrice Group รับเงินระดมทุน 10 ล้านดอลลาร์ ระดับ Series B จาก ACA รวมทั้ง LINE Ventures

บริษัท iPrice Group -- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ได้รับเงินระดมทุนใหม่ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกครั้งใน Series B จาก ACA Investment Pte Ltd ร่วมกับ Daiwa PI Partners และกองทัพนักลงทุนเดิมอย่าง LINE Ventures, Mirae Asset-Naver Asia Growth Fund เพื่อผลักดัน iPrice ก้าวเข้าสู่แพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำแอพลิเคชั่นช้อปปิ้งออนไลน์ที่มีคุณภาพ

ในปี 2014 กลุ่มบริษัท iPrice Group ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันสำคัญของธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร จากการที่ผู้บริโภคมักถูกกระหน่ำด้วยตัวเลือกอันมากมายจากหลากหลายเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซตลอดหลายปีที่ผ่านมา iPrice ได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซ SEA ที่มีสินค้ามากกว่า 1.5 พันล้านรายการจากคู่ค้ากว่า 1,500 ราย ปัจจุบัน iPrice เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมเว็บอีคอมเมิร์ซชั้นนำในภูมิภาคโดยเฉพาะตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศอินโดนีเซีย, เวียดนาม, ไทย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย และฮ่องกง

ด้วยธุรกรรมกว่า 5 ล้านรายการที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์ม iPrice ในปี 2019 ควบคู่ไปกับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มากกว่า 20 ล้านคนต่อเดือนทำให้แนวโน้มธุรกิจของ iPrice อยู่ในสภาวะ ‘ขาขึ้น’ เรื่อยมา เสริมทับด้วยผลสำรวจจาก Google และ Temasek ที่คาดการณ์ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นจะมีค่า GMV แตะ 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2025  

“อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ในช่วงที่กำลังเติบโต และเราเล็งเห็นถึงศักยภาพที่ยิ่งใหญ่นี้ กลุ่มบริษัท iPrice จะมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการครอบคลุมตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเป็นประตูสำคัญไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์” นาย Tomohiro Fujita กรรมการผู้จัดการด้านการลงทุนของ บริษัท ACA Investments Pte. Ltd. กล่าว

การเป็นเกตเวย์หลักสำหรับนักช้อปปิ้งออนไลน์

เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุด กลุ่มบริษัท iPrice Group จะยกระดับสถานะจากการเป็นผู้รวบรวมเว็บอีคอมเมิร์ซชั้นนำก้าวสู่มิตรแท้ของนักช้อปออนไลน์ที่แท้จริง  

เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์นี้ iPrice จึงกำลังขยายอนาเขตการเป็นเว็บไซต์ที่ให้มากกว่าการเปรียบเทียบราคา โดยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาสินค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น iPrice จะทำการรวบรวมรายการสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ควบคู่ไปกับการรีวิวสินค้าระดับมืออาชีพ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ขายมาบริการนักช้อป ยิ่งไปกว่านั้น iPrice ยังจะมุ่งมอบสินค้าที่มีราคาที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคโดยการรวบรวมคูปองลดราคา และข้อเสนอที่ดีที่สุดสดใหม่ทุกวัน

ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของระบบนิเวศออนไลน์ ผู้บริโภคจึงมักพบว่าตัวเองหลงทางอยู่เสมอ เมื่อพิจารณาจากการเพิ่มขึ้น-ลดลงอย่างรวดเร็วของร้านค้าอีคอมเมิร์ซ iPrice จึงค้นพบว่าแท้จริงแล้วนักช้อปออนไลน์ต้องการแพลตฟอร์มเดียวที่สามารถรวบรวมสินค้าและร้านค้าอันมากมายมหาศาลไว้ในหนึ่งเดียว จึงมุ่งหวังที่จะทำให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งของผู้บริโภคง่ายขึ้นโดยการปรากฎในทุก ๆ แหล่งที่นักช้อปออนไลน์จะเข้าถึง 

“เพื่อให้เป้าหมายของเราลุล่วงต่อไป เราต้องอยู่ในทุกที่ที่ผู้บริโภคอยู่ เราจำเป็นต้องดึงดูดผู้ใช้ให้ยังคงใช้และกลับมาใช้บริการบนแพลตฟอร์มของเราต่อไป และคงฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอันมั่นคงบน Google เนื่องจากมันยังคงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับนักช้อปปิ้งจำนวนมาก และทำให้คู่ค้าทั่วทั้งภูมิภาค เช่น แพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดีย และแอพฯ สุดยอดใหม่ ๆ สามารถจัดหาเนื้อหาด้านอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้เยี่ยมชมของพวกเขา” นาย David Chmelar กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง กลุ่มบริษัท iPrice Group กล่าว 

“iPrice มีศักยภาพที่จะเป็นผู้รวบรวมเว็บอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียทั้งหมด บริษัทขยายบริการด้วยสุดยอดแอพฯต่าง ๆ อย่าง LINE และ Home Credit นอกเหนือจากนี้ การจัดการที่แข็งแกร่งของ iPrice ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพนักงานที่มีความสามารถจากหลากหลายประเทศ ทำให้เรามีความมั่นใจในการลงทุนในบริษัทนี้ เพราะเห็นถึงศักยภาพมากที่จะเติบโตต่อไป” นาย Hirofumi Imamura ผู้อำนวยการด้านหุ้นส่วน บริษัท Daiwa PI กล่าว

การลงทุนรอบนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าของกลุ่ม meta-search และศักยภาพที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หน่วยธุรกิจหลักของ iPrice คิดเป็น 50% ของรายได้ ดำเนินงานอยู่ที่ 30% EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) และอยู่ในแผนที่จะเปลี่ยนส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจให้อยู่ในระดับการทำกำไรเดียวกันภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ด้วยความพยายามทั้งหมดที่จะเดินหน้าต่อไป มันยังคงอยู่บนเส้นทางที่จะกลายเป็นเกตเวย์หลักของประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แล้ว Covid-19 ล่ะ ส่งผลกระทบกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซไหม?

คุณ David Chmelar แจ้งว่า “Covid-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซทางตรง แต่เป็นทางอ้อมมากกว่า จะเห็นว่ายอดการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั่นเพิ่มขึ้นในช่วงที่ไวรัสระบาด แต่ปัญหาคือสินค้าส่วนใหญ่ล้วนมีฐานการผลิตอยู่ที่จีนทำให้มีระยะเวลาการจัดส่งที่ยาวนานกว่าเดิมเหตุจากพนักงานถูกยกเลิกจ้าง หรือขาดงาน แม้การมียอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นดูเหมือนจะเป็นข้อดี แต่ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่ามูลค่าการซื้อขายไม่ได้เพิ่มมากเท่าที่ควร” 

มากไปกว่านั้นนางสาวขนิษฐา สาสะกุล หัวหน้าทีม Content Marketing ประจำประเทศไทยยังกล่าวเสริมว่า “หากสถานการณ์ Covid-19 ในไทยยังไม่ดีขึ้น iPrice ก็มีแผนการผลิตคอนเทนต์เชิงให้ความรู้เชื่อมโยงกับหลากหลายประเภทธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยว, อีคอมเมิร์ซและธุรกิจขนส่ง เป็นต้น เพื่อให้ผู้อ่านใช้ชีวิตประจำวันในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงนี้ได้ดียิ่งขึ้น”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...