IRPC ร่วมทุนจีน เปิดตัว Plastic E-commerce Platform แหล่งซื้อขายเม็ดพลาสติกออนไลน์รายแรกของไทย

IRPC ร่วมลงทุนจีนขยายปีกสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ขายเม็ดพลาสติกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “PLASTKET.COM” เจ้าแรกของไทย พร้อมเดินหน้าตามแผนงาน ไออาร์พีซี 4.0 ตั้งเป้าเป็นผู้นำทางด้าน Digital ด้วยการบูรณาการระบบดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร             

IRPC-CEOนายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินโครงการ IRPC 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ GDP ที่ทางบริษัทได้มุ่งเน้นการดำเนินการด้าน Power of Digital เพื่อผลักดันให้ ไออาร์พีซีเป็น Petrochemical Complex ชั้นนำทางด้าน Digital  การบูรณาการระบบดิจิทัลเทคโนโลยี เข้ามาใช้ในขั้นตอนธุรกิจ ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วองค์กร

โดยบริษัทได้มีการขยายการลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ภายใต้แพลตฟอร์ม “พลาสเก็ตดอทคอม (PLASTKET.COM)”  เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (ถือหุ้น 55%) และบริษัท Guangzhao Saiju Performance Polymer Ltd. (“GZSJ”) (ถือหุ้น 45%) จากจีน

ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะจำหน่ายเม็ดพลาสติกจากทุกแบรนด์ ไม่จำกัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ของไออาร์พีซีและในกลุ่ม ปตท. ทั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการพลาสติก SMEs ทั่วประเทศเข้ามานำเสนอ จำหน่าย ซื้อขายสินค้าได้อย่างปลอดภัยและโปร่งใส

นอกจากนี้ยังมีโครงการ “EKONS” ระบบที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ โดยสามารถวัดและติดตามสถานะของตัวชี้วัดหรือ KPI ของแต่ละโรงงาน โครงการ Predictive Maintenance ช่วยคาดการณ์และกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการซ่อมบำรุงล่วงหน้า พร้อมประเมินแนวโน้มการเบรกดาวน์ของอุปกรณ์สำคัญ ซึ่งจะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานเครื่องจักร ลดค่าซ่อมบำรุงในอนาคต และเพิ่มระยะเวลาการปฏิบัติการของโรงงานให้สูงขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทได้จัดทำระบบซัพพลายเชน ที่นำระบบดิจิทัลมาปรับเปลี่ยนระบบจัดการข้อมูลจาก Crude supply         ไปจนถึงปรับปรุงขั้นตอนการจัดส่งสินค้าให้เป็นระบบมากขึ้น มีการบูรณาการข้อมูลระหว่างระบบต่างๆ และช่วยให้การตัดสินใจทางด้านซัพพลายเชนมีประสิทธิผลมากขึ้น

ระบบ Big Data วิเคราะห์ความต้องการของตลาด ระบบเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนจัดซื้อ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านต้นทุน และการเปลี่ยนแปลงการจัดการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ขององค์กร ระบบดังกล่าวนี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท (50 ล้านเหรียญสหรัฐ)

“เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เรามีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือ High Value Added Products (HVA)  ควบคู่ไปกับการดำเนินการตามแผนงาน ไออาร์พีซี 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ GDP เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รับมือกับสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน  รวมถึงขยายส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ในตลาดอาเซียนให้มากขึ้น”  นายนพดล กล่าว

 

 

 

 

 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Wongnai POS เปิดตัว mini EDC โซลูชันรับชำระเงินเพื่อ SME รวมทุกการจ่ายในเครื่องเดียว เชื่อมต่อระบบขายหน้าร้านอัตโนมัติ

เมื่อพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนจากการใช้เงินสดไปสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้น ความท้าทายของร้านค้าและผู้ประกอบการ SME จึงไม่ใช่แค่เรื่อง “ยอดขาย” เพียงเท่านั้น แต่คือ “ร้านค้าพร้อมรองรับการช...

Responsive image

ChatGPT มี Wrapped เป็นของตัวเองแล้ว! เปิดตัว “Your Year with ChatGPT” สะท้อน ‘ตัวตน’ ผ่านบทสนทนาตลอดปี ซื้อใจผู้ใช้ด้วย AI ในฐานะ ‘เพื่อนคู่คิด’

ChatGPT เปิดตัว “Your Year with ChatGPT” ฟีเจอร์ Recap สิ้นปีที่ไม่ได้สรุปแค่สถิติการใช้งาน แต่สะท้อนตัวตน วิธีคิด และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับ AI พร้อมเผยเกมจิตวิทยาและกลยุทธ์ข...

Responsive image

จบปัญหาชื่ออีเมลน่าอาย! Google เตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ เปลี่ยนชื่อ @gmail.com ได้ ไม่ต้องสมัครใหม่

พบข้อมูล Google เตรียมเปิดฟีเจอร์ให้เปลี่ยนชื่ออีเมล @gmail.com ได้ โดยข้อมูลไม่หาย อีเมลเก่าจะกลายเป็น Alias รับข้อความได้ปกติ...