ภายใน 15 มีนาคม 2019 นี้ สรรพากรเตรียมดึงข้อมูลประกันชีวิต LTF/RMF จากออนไลน์ และเริ่มเปิดบริการยื่นภาษีบุคคลธรรมดาด้วยแอปพลิเคชัน ‘iTAX’ ระบุคนขายออนไลน์ระวัง Web scraping ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลของผู้ค้าได้ ผ่านการดึงข้อมูลจากเว็บไซต์มาวิเคราะห์ แจงให้ผู้ค้าออนไลน์มาเสียภาษีให้ถูกต้อง
ด้านคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยว่า กรมสรรพากรพยายามที่จะเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับหน่วยงานภายนอกมากขึ้น ทั้งประกันชีวิต ประกันแบบบำนาญ ประกันสุขภาพบิดา/มารดา/คู่สมรส รวมถึงกองทุนแฝดอย่าง กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หลังจากที่ได้จัดทำ ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ในปี 2018 ที่ผ่านมา
จากความร่วมมือของกรมสรรพากรและบริษัท ไอแท็กซ์ อินคอเปอร์เรชั่น จำกัด (iTax Inc.) กรมสรรพากรเตรียมจัดการบริการ Open API เพื่อให้ผู้เสียภาษีสามารถใช้งานการส่งข้อมูลแบบแสดงรายการภาษีทางออนไลน์ เป็นรายแรกที่เริ่มการยื่นแบบ ภ.ง.ด.91 ผ่าน RD Smart Tax Application ทางโทรศัพท์มือถือ
ล่าสุด กรมสรรพากรได้จัดงาน “PIT Digital Services ก้าวสู่ยุคใหม่ สรรพากรบริการประชาชน” ในวันที่ 4 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยหวังยกระดับสรรพากรไปสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มช่องทางการบริการในการชำระภาษีออนไลน์หลายช่องทางทั้งพร้อมเพย์และ Blockchain ในอนาคต
คุณนิติยังกล่าวอีกว่า จะมีการเปิดตัวบริการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา PIT Digital Services (PIT) เนื่องจากขณะนี้คือช่วงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจะเปิดตัวบริการเกี่ยวกับภาษีนิติบุคคล (CIT) ต่อไป โดยจะมีเปิด Open API และมีเรื่องอากรแสตมป์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Stamp) ในช่วง พฤษภาคม-มิถุนายน ในส่วนของการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีผู้ยื่นกว่า 3.2 ล้านคน โดยจำนวนของผู้ยื่นทางอินเทอร์เน็ตสูงถึง 3 ล้านคน หรือร้อยละ 90 จากสัดส่วนทั้งหมด ในขณะที่มีผู้ขขอคืนภาษีแล้ว 1.5 ล้านคน และได้ทำการคืนเงินแล้วจำนวน 1 ล้านคนทางพร้อมเพย์ โดยปีนี้มีเป้าหมายอยู่ที่ 11 ล้านคน
นอกจากนี้อธิบดีกรมสรรพากรเผยว่า สำหรับ SME ให้จดทะเบียนแสดงตนเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเว้นเบี้ยปรับเงินเพิ่ม กำลังพิจารณาอยู่ในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนี่ถือเป็นโอกาสให้คนที่ทำบัญชีไม่ถูกต้องในปี 2017-2018 สามารถปรับปรุงได้ตั้งแต่ มิถุนายน 2019 ผ่านการยื่นต่อสรรพากรทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) และต่อจากนี้หาก SME ต้องการจะขอสินเชื่อต้องใช้บัญชีที่ยื่นกับกรมสรรพากรในการไปยื่นธนาคาร หรือการใช้บัญชีเล่มเดียว อีกทั้งในครั้งนี้จะมีการตรวจสอบแล้วทำการเสียภาษี โดยยกเว้นเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ต่างจากพระราชกำหนดเดิมที่เป็นนิรโทษกรรม ที่ไม่ต้องถูดตรวจสอบภาษีย้อนหลัง
ภาพและข้อมูลจาก: Prachachat
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด