ประกาศชัยชนะเหนืออดีต และปักธงสู่ยุคใหม่ รัฐบาลญี่ปุ่นเลิกใช้ Floppy Disk ได้แล้ว ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย
เมื่อวันพุธ (3 ก.ค.) ที่ผ่านมาสำนักข่าว Reuters รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกเลิกการใช้งาน Floppy Disk ในระบบราชการทั้งหมดแล้ว โดย ทาโร โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลของญี่ปุ่นเปรียบการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นดั่งชัยชนะในสงครามเลยทีเดียว ที่เจ้าตัวเคยประกาศไว้ว่าจะเอาชนะมันให้ได้เมื่อ 3 ปีก่อน
Floppy Disk (แผ่นฟลอปปีดิสก์) หรืออาจจะรู้จักกันในชื่อแผ่นดิสเก็ตต์ เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิดหนึ่ง ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ ทำมาจากพลาสติกและโลหะ ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อปี 1971 และเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงปลายทศวรรษปี 1970 และสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ 100 KB ถึง 1.44 MB
เดือนที่แล้วหน่วยงานราชการญี่ปุ่นยังคงใช้ Floppy Disk ในการส่งเอกสารอยู่ จนกระทั่งหน่วยงานดิจิทัลของประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศยกเลิกกฎระเบียบที่บังคับให้ต้องใช้ Floppy Disk กว่า 1,034 ฉบับ เมื่อกลางเดือนมิถุนายน
การประกาศชัยชนะดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลมีเดีย ผู้ใช้ Twitter (X) รายหนึ่งเปรียบว่าการใช้งาน Floppy Disk ของรัฐบาลคือสัญลักษณ์ของการบริหารที่ล้าสมัย
"รัฐบาลยังคงใช้ฟลอปปีดิสก์อยู่เหรอ? มันล้าสมัยมาก... ฉันเดาว่าพวกเขามีแต่คนแก่ๆ เต็มไปหมด" ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความเห็นไว้บน X
ครั้งหนึ่งญี่ปุ่นเคยถูกยกให้เป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีโลก แต่กลับล้าหลังในการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานสู่ดิจิทัล เนื่องจากมีการต่อต้านอย่างมากจากผู้คนในระบบ สถานที่ทำงานบางแห่งยังคงใช้เครื่องแฟกซ์ เคยมีแผนที่จะเลิกใช้เครื่องมือโบราณเหล่านี้ในสำนักงานของรัฐบาล แต่ก็ล้มเลิกไปเพราะกระแสต่อต้าน
ธุรกิจหลายแห่งในญี่ปุ่นยังคงต้องใช้ตราประทับที่เรียกว่าฮังโกะ เพื่อเป็นการรับรองเอกสารทางการ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามยกเลิกใช้ตราประทับเหล่านี้ก็ตาม ผู้ให้บริการเพจเจอร์เจ้าสุดท้ายในประเทศก็เพิ่งจะปิดตัวไปเมื่อปี 2019 โดยเป็นทางเลือกในการสื่อสารที่ผู้สูงอายุยังใช้งานอยู่
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด