หลังจากประสบความสำเร็จกับยอดที่พุ่งถึง 170% จากแคมเปญ LOVE MOM หม่ำกับแม่ ที่จัดโปรโมชันเพื่อกระชับความสัมพันธ์แม่-ลูก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา LINE MAN ตั้งเป้าเดินหน้าสร้าง Emotional Value เสริมกลยุทธ์ Moment Marketing เพื่อส่งมอบบริการที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Platform ที่เข้าใจความต้องการและความรู้สึกของลูกค้าอย่างแท้จริง ทั้งในด้านฟังก์ชั่นและด้านการบริการ
คุณวรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MANจาก Functional value สู่ Emotional Value เมื่อคนไม่ได้สั่งอาหารจาก LINE MAN แค่เวลาหิว
คุณวรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN เผยว่า “LINE MAN เติบโตจากแอปพลิเคชันที่มีจุดแกร่งของบริการที่ให้ Functional value กับการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งบริการส่งอาหาร แมสเซนเจอร์ ส่งพัสดุ ซื้อของร้านสะดวกซื้อ และเรียกแท็กซี่ โดยตลอดสามปีที่ผ่านมา LINE MAN ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มบริการที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งความท้าทายต่อไปจึงเป็นโจทย์ของทีมที่จะต้องสร้างให้ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งคนนี้ยั่งยืนและสามารถครองใจผู้ใช้ในระยะยาว โดยนอกจากความสะดวกสบายและความคุ้มค่าที่ผู้ใช้จะได้รับ เรามุ่งพัฒนาบริการที่สามารถสร้างคุณค่าทางความรู้สึก (Emotional Value) เพื่อเข้าถึงความรู้สึกและสร้างความผูกพันกับผู้ใช้ ถือเป็นจุดเด่นที่ได้รับการพูดถึงจากผลสำรวจ เพื่อให้รู้สึกว่า LINE MAN เป็นผู้ช่วยที่เข้าอกเข้าใจพวกเขาอย่างแท้จริง ซึ่งเราได้เริ่มนำร่องกับแคมเปญ LOVE MOM หม่ำกับแม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในการนำเสนอการกระชับความสัมพันธ์ของแม่และลูกในยุคนี้ผ่านหนังโฆษณา พร้อมถ่ายทอดวิธีการใช้งานแอปพลิเคชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหญ่ จนสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 170% ในช่วงเวลาดังกล่าว นำมาซึ่งภาพของการเป็นผู้ช่วยที่สามารถสร้างโมเมนต์พิเศษของ LINE MAN ได้อย่างดีเยี่ยม”