ท่ามกลางการแข่งขันที่ร้อนแรงของวงการเซมิคอนดักเตอร์ Intel Corporation ได้ประกาศแต่งตั้ง Lip-Bu Tan ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ โดยหวังให้ประสบการณ์อันยาวนานของเขาช่วยนำพาบริษัทกลับสู่ความเป็นผู้นำในตลาด การแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาที่ยากลำบากของบริษัท ซึ่งต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านการแข่งขัน เทคโนโลยี และความเชื่อมั่นของนักลงทุน
Intel Corporation (Intel) ประกาศแต่งตั้ง Lip-Bu Tan อดีตสมาชิกคณะกรรมการและผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมชิป เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม เป็นต้นไป การแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นสามเดือนหลังจากการปลด Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ ซึ่งพยายามพลิกฟื้นบริษัทด้วยแผนการที่ทะเยอทะยานมากจนส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
ถือเป็นการกลับเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารอีกครั้งของ Lip-Bu Tan หลังจากที่เขาลาออกจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคม 2024 โดย Frank D. Yeary ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานบริหารชั่วคราว จะกลับไปดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอิสระหลังการขึ้นตำแหน่งของ CEO คนใหม่
“Lip-Bu เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ลึกซึ้งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และมีประวัติการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่ Intel ต้องการในซีอีโอคนใหม่ ตลอดเส้นทางอาชีพอันยาวนานและโดดเด่นของเขา เขาได้สร้างชื่อเสียงในฐานะนักนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับลูกค้า สร้างโซลูชันที่แตกต่าง และพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นประสิทธิภาพสูงเพื่อความสำเร็จ” Yeary กล่าว
Tan เป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีและผู้บริหารที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์มากกว่า 20 ปี เขาเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Cadence Design Systems ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2021 โดยได้พลิกโฉมบริษัทและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่เน้นนวัตกรรมเพื่อลูกค้า ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง Cadence มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า อัตรากำไรจากการดำเนินงานขยายตัว และราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 3,200%
Tan กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วม Intel ในฐานะซีอีโอ ผมมีความเคารพและชื่นชมบริษัทแห่งนี้เป็นอย่างมาก และมองเห็นโอกาสมหาศาลในการปรับโครงสร้างธุรกิจของเราเพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น”
หลังการประกาศแต่งตั้ง ราคาหุ้นของ Intel พุ่งขึ้นถึง 12% ซึ่งได้รับการต้อนรับจากนักวิเคราะห์ที่มองว่าเป็นสัญญาณของเสถียรภาพที่ดีขึ้นในบริษัท หลังจากที่ราคาหุ้นของ Intel ร่วงลงถึง 60% ตลอดปี 2024
อย่างไรก็ตาม Intel กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ในขณะที่พยายามก้าวผ่านหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของบริษัท แม้ว่าตลาดชิป AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทคู่แข่งอย่าง Nvidia แต่ Intel กลับยังไม่สามารถฉวยโอกาสจากกระแสดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน บริษัทก็กำลังลงทุนมหาศาลเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้ผลิตชิปแบบรับจ้างผลิต (foundry) ซึ่งทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับกระแสเงินสดของบริษัท
Jack E. Gold นักวิเคราะห์และประธานของ J. Gold Associates กล่าว “เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ทั้งในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และความต้องการของโรงงานผลิตชิป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ Intel Foundry ต้องการปรับปรุง เพื่อให้เครื่องมือของพวกเขาเป็นมิตรและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น”
“เราจะร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟู Intel ให้กลับมาเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์ระดับโลก สร้างรากฐานให้เป็นโรงงานผลิตชิปที่แข็งแกร่ง และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของเราอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” Tan กล่าวในจดหมายถึงพนักงาน Intel
อ้างอิง:
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด