แปลกใจไหมที่บ้านเรายัง ‘น่าลงทุน-น่าร่วมทุน’ ในสายตาชาวยุโรป อเมริกา และเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘จีน’ ที่หลังจากพับประเด็นโควิดก็กลับมาบุกตลาดไทยแบบเนื้อๆ เน้นๆ อย่างล่าสุด มีตัวแทนจาก สำนักงานบริหารลู่เจียจุ่ย เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ มาโรดโชว์ในไทย โดยเปิดประตูบานที่เอื้อให้นักลงทุนต่างชาติทั้งไทยและเทศเข้าไปเต็มที่ ท่ามกลางกระแสข่าวธุรกิจสีเทาๆ ดำๆ ที่ยังคลุมเครือ รอวันกระจ่างชัด

โรดโชว์เมืองการเงินลู่เจียจุ่ยและงานสัมมนา ‘ลู่ทางและโอกาสการค้าและการลงทุนในเซี่ยงไฮ้’ จัดขึ้น ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทีเรีย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566

สิ่งที่ควรจะเป็นซึ่งเอื้อประโยชน์ทั้งสองฝั่ง คือ การเจรจาการค้าข้ามแดนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยกตัวอย่าง นครเซี่ยงไฮ้ พื้นที่นำร่องในการดำเนินนโยบายใหม่และนวัตกรรมใหม่ของจีนมาอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลออกนโยบาย Free Trade Zone ทดลองใช้ในเซี่ยงไฮ้เป็นแห่งแรกและจะใช้เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาของจีนยุคหน้า 

โดยหนึ่งใน Free Trade Zone ซึ่งตั้งอยู่ในเขตผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ คือ เขตการเงินและการค้าลู่เจียจุ่ย (陆家嘴金融贸易区) นำโดย นายหยวน เย่เฟิง รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารลู่เจียจุ่ย เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ ตัวแทนจาก Lujiazui Financial City มาเยือนไทยเพื่อประกาศให้นักลงทุนรับรู้ว่า ลู่เจียจุ่ยสำคัญและน่าสนใจอย่างไร ผ่านการ โรดโชว์เมืองการเงินลู่เจียจุ่ย (Lujiazui Financial City Roadshow) และการจัดงานสัมมนา ‘ลู่ทางและโอกาสการค้าและการลงทุนในเซี่ยงไฮ้’ ที่จัดขึ้นโดย สมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน

พูดกันตามตรง คณะผู้บริหารของสำนักงานบริหารลู่เจียจุ่ย เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ บินตรงจากจีนมาไทยเพื่อแชร์ข้อมูลและโปรโมตเขตการเงินและการค้าแห่งนี้ เพราะทางลู่เจียจุ่ย (ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน) ต้องการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ร่วมกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ และสำหรับการมาเยือนประเทศไทยนั้น สิ่งที่ทางลู่เจียจุ่ยมุ่งหวังเพิ่มเติมยังมีเรื่อง 1) แสวงหาองค์ความรู้ในด้านที่จีนขาด เช่น ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) 2) ศึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรด้านพลังงานในไทยที่เติบโตได้ดีในจีน นั่นคือ ปตท.

เขตการเงินและการค้าลู่เจียจุ่ย อยู่ติดแม่น้ำหวงผู่ มีพื้นที่ 31.78 ตร.กม. ถือเป็นเขตพัฒนาระดับชาติเพียงแห่งเดียวที่ผนวกทั้งด้าน 'การเงิน' และ 'การค้า' เข้าไว้ด้วยกัน

ดร. ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร อุปนายกและเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน กล่าวต้อนรับคณะผู้บริหารของ สำนักงานบริหารลู่เจียจุ่ย เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ และผู้เข้าร่วมงานสัมมนาในนามของ นายธนากร เสรีบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน และรองประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประธานงานสัมมนา

“จีนกลายเป็นประเทศที่มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของไทยในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน จีนจะยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ทางเศรษฐกิจนี้เอาไว้ได้ในปีนี้ และมีศักยภาพที่จะเติบใหญ่อีกมากในอนาคต นอกจากพี่น้องชาวจีนที่จะหลั่งไหลมาเที่ยวไทยอีกหลายล้านคน ผมมองว่า เราจะได้เห็นการขยายการลงทุนของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อีอีซี” ดร.ไพจิตรกล่าว

ในความเป็น 'หัวมังกร' ด้านเศรษฐกิจของจีน เซี่ยงไฮ้พร้อมพรั่งไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน รวมถึงมีระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่ทันสมัย จึงได้เป็นเจ้าภาพจัดงานสำคัญระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ดร.ไพจิตรกล่าวเพิ่มว่า ด้วยความพร้อมและศักยภาพที่มีอยู่ ยิ่งผลักดันให้มหานครเซี่ยงไฮ้เป็นเสมือน 'ห้องรับแขกขนาดใหญ่' ที่เปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งในส่วนของไทยเองก็มีกิจการชั้นนำเข้าไปประกอบการในนครเซี่ยงไฮ้แล้ว อาทิ ธุรกิจในเครือซีพี ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ปตท.

นายหยวน เย่เฟิง รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารลู่เจียจุ่ย เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ กล่าวถึงความสำคัญของทำเลที่ตั้งในทางภูมิศาสตร์ ต่อด้วยระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่มีสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศอยู่ในลู่เจียจุ่ยรวมแล้วมากกว่า 6,000 แห่ง

นายหยวน เย่เฟิง รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารลู่เจียจุ่ย เขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า เซี่ยงไฮ้เติบใหญ่อย่างรวดเร็วในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาจนมีขนาดเศรษฐกิจเทียบเท่ากับจีดีพีของบางประเทศ ขณะที่เขตลู่เจียจุ่ย ก็เป็นพื้นที่การพัฒนาระดับชาติแห่งเดียวที่ครอบคลุมทั้งด้านการค้าและการเงินไว้พร้อมกัน จึงเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า โดยมีอาคารสำคัญ อาทิ เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดของจีน เซี่ยงไฮ้เวิร์ลไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์

นอกจากนี้ เขตลู่เจียจุ่ยยังพยายามนำเสนอแนวทางการพัฒนาพื้นที่เพื่อดึงดูดให้กิจการต่างชาติขยายการลงทุนในพื้นที่ในอนาคต เพื่อพัฒนาเขตลู่เจียจุ่ยให้เป็นสถานที่ตั้งของระบบการเงินครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำของโลก และก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ เทียบชั้นศูนย์กลางการเงินฯ แห่งอื่นของโลกในที่สุด

นายหยวนบอกว่า มาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ คาดว่าจะเป็นแม่เหล็กชิ้นสำคัญของลู่เจียจุ่ย คือ การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 25% เป็น 15% ของเงินได้สำหรับประเภทธุรกิจที่ได้การส่งเสริมการลงทุน เช่น ธุรกิจการเงิน การค้าระหว่างประเทศ และอุตสาหกรรมไฮเทค 

หลังจากนั้น นายไช่ หงถู รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ลู่เจียจุ่ย กรุ๊ป จำกัด และนางสาวซุน เจียอิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ เซี่ยงไฮ้ ผู่ตง เอ็กโปเลชั่น กรุ๊ป สองตัวแทนจากรัฐวิสาหกิจจีน มาเล่าถึงความพยายามในการพัฒนาพื้นที่ลู่เจียจุ่ยในเชิงรุก และนำเสนอโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการออกแบบและก่อสร้าง อาทิ โครงการ The Summit, Longyang TOD Complex, 333 Century

นอกจากนี้ หลังเสร็จสิ้นงานแถลงข่าว นายธนากร เสรีบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน และรองประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยเกี่ยวกับธุรกิจซีพีในจีนว่า 

นายธนากร เสรีบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน และรองประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปรียบเทียบ ลู่เจียจุ่ย ว่าเป็นเมืองการเงินคล้ายกับ 'เมืองแมนฮัตตัน' ในสหรัฐอเมริกา และอยู่ติดคุ้งน้ำเหมือนที่ 'กรุงเทพฯ อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา'

เครือเจริญโภคภัณฑ์มีธุรกิจในจีนมากกว่า 600 บริษัท กระจายอยู่ในทั่วทุกมณฑล และมีพนักงานรวมกันเกือบหนึ่งแสนคน สำหรับธุรกิจที่เครือเจริญโภคภัณฑ์เข้าไปลงทุนในจีนนั้น ครอบคลุมทั้งด้านการเกษตรและอาหาร การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค การค้าปลีก ยา อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และสื่อสาธารณะ

และในพื้นที่เซี่ยงไฮ้ ซีพีเข้าไปลงทุนครั้งแรกเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน และขยายการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเขตลู่เจียจุ่ยที่โดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ Super Brand Mall (正大广场) ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ซึ่งใช้ชื่อภาษาจีนว่า เจิ้งต้า หรือที่เรียกในไทยว่า เจียไต๋ (เจริญโภคภัณฑ์) นั่นเอง