นี่มันยุคของ AI ในงาน Meta Connect 2023 ก็จัดมาเน้น  ๆ เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่มากมาย โดยเทคโนโลยี generative AI ทั้งหมดที่นำมาใช้พัฒนามาจากโมเดลภาษา Llama 2 

ซึ่ง AI ที่เปิดตัวในงานนี้ว่ากันว่าเปิดตัวออกมาครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น Chatbot, Assistant, AI ที่ใช้สร้างสรรค์รูปภาพ หรือแม้แต่ AI สำหรับธุรกิจก็ยังมี จะมีอะไรบ้างและพิเศษแค่ไหน ไปดูกัน 

1. AI Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะ

ผู้ช่วยคนใหม่ของ Meta ตอบคำถามและพูดคุยได้คล้ายกับ ChatGPT ซึ่งความพิเศษของ AI Assistant คือพูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และคล้ายกับคนมาก ๆ เนื่องจากได้รับการพัฒนามาจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง Llama 2

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนโดย Bing ของ Microsoft ทำให้สามารถตอบคำถามทั่ว ๆ ไป และใช้ Search Engine ในการหาข้อมูลได้ โดย AI จะสามารถใช้งานได้ในรุ่นเบต้าที่สหรัฐอเมริกาบน WhatsApp, Messenger, Instagram ก่อน และจะสามารถใช้งานบนแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban และแว่น VR Quest 3 ได้ในเร็ว ๆ นี้

2. AI Chatbot ที่ยืมบุคลิกของดารามาใช้

Chatbot ตัวนี้ไม่ได้มีไว้แค่ตอบคำถามเท่านั้น แต่เน้นไปที่ความสนุกสนานในการพูดคุยด้วย เพราะ Meta ได้พัฒนาให้ AI Chatbot ตัวนี้ให้มีนิสัยใจคอโดยอ้างอิงมาจากคนดังทั่วโลกกว่า 28 บุคลิก

ซึ่ง AI เหล่านี้จะมีโปรไฟล์ของตัวเองบน Instagram และ Facebook เพื่อความสมจริงในการพูดคุย โดย Meta ได้สร้างตัวตนใหม่ให้กับ AI ทั้ง 28 ตัว ได้แก่ Charli D’Amelio, Chris Paul, Dwyane Wade, Izzy Adesanya, Kendall Jenner, LaurDIY, MrBeast, Naomi Osaka, Paris Hilton, Raven Ross, Raven Ross, Roy Choi, Sam Kerr, Snoop Dogg, และ Tom Brady

คนดังแต่ละคนก็จะถูกดึงคาแรกเตอร์ออกมาสร้างเป็นตัวละคร AI ต่าง ๆ เช่น

• Billie คือ AI ที่ยืมคาแรกเตอร์ของนางแบบดัง Kendall Jenner มาใช้ มีนิสัยตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ และอยู่เคียงข้างเพื่อนเสมอ
• Zach คือ AI ที่ยืมคาแรกเตอร์ของ Youtuber ชื่อดัง MrBeast มาใช้ มีนิสัยใจกว้าง เป็นพี่ใหญ่ที่คอยดูแลปกป้องคุณได้ และอาจมีความขี้แกล้งเล็กน้อย

Meta เผยว่า ในปีหน้านอกจากพูดคุยโต้ตอบผ่านข้อความจะมีการพัฒนา AI Chatbot ตัวนี้ให้สามารถเคลื่อนไหว มีเสียงพูดด้วย

3. AI Studio สร้างสรรค์ AI ได้ตามการใช้งาน

มีขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจต่าง ๆ ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Meta โดยธุรกิจสามารถใช้งาน AI Studio เพื่อสร้าง Chatbot ที่มีคุณลักษณะตรงตาม Brand Values รวมถึงปรับปรุงการบริการและการขายให้ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจมากที่สุด

นอกจากนี้ AI Studio ยังเปิดให้โปรแกรมเมอร์ หรือนักพัฒนาใช้บริการนี้ของพวกเขาในการสร้าง AI ได้ด้วย ซึ่งในอนาคตบริการ AI Studio จะเปิดให้เหล่าครีเอเตอร์ได้ใช้สร้าง AI ของตัวเองเช่นกัน 

ปีหน้า Meta จะเปิดแซนบ็อกซ์ให้ผู้คนได้ทดลองสร้างตัวละคร AI ของตนเอง ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะนำไปสู่การพัฒนาต่อเป็น Metaverse ในอนาคต

4. AI stickers สติ๊กเกอร์ตามสั่ง

“ไม่มีสติ๊กเกอร์ที่ตรงกับความรู้สึกตอนนี้เลย” ปัญหานี้จะไม่มีอีกแล้วเพราะ Meta เปิดตัว ‘Emu’ หรือ AI ที่สามารถสร้างสติ๊กเกอร์ตามคำสั่ง Prompt แทนที่จะต้องเสียเวลาเลือกสติ๊กเกอร์ที่เคยโหลดมา ก็เปลี่ยนมาสร้างใช้เองตามอารมณ์ความรู้สึกตอนนั้นได้เลย 

รูปจาก: about.fb

โดยในตอนนี้คำสั่ง Prompt ที่ใช้งานได้ยังคงมีแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งหลังจากพิมพ์คำสั่งลงไป AI จะใช้เวลาประมาณ 3 วินาทีเพื่อสร้างสติ๊กเกอร์ให้กับคุณ สามารถใช้ได้บน WhatsApp, Messenger, Instagram และ Facebook Stories โดยจะเปิดให้ใช้งานในเดือนหน้า

5. AI ปรับแต่งรูปภาพ

ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Instagram ที่จะสามารถใช้ AI ในการปรับแต่งหรือสร้างรูปภาพใหม่ได้ โดย AI ตัวนี้เรียกว่า Restyle ใช้งานคล้ายกับ Emu เพียงแค่คุณพิมพ์คำสั่ง Prompt ลงไปว่าต้องการให้ AI ปรับแต่งอะไรในรูปภาพของคุณ

รูปจาก: about.fb

เช่น เปลี่ยนสไตล์รูปถ่ายธรรมดา ให้เป็นสไตล์ภาพวาดสีน้ำ หรือหากต้องการเปลี่ยนฉากหลังของรูปถ่ายก็เพียงแค่สั่ง AI ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว Restyle กำลังจะเปิดให้ใช้บน Instagram ที่สหรัฐอเมริกาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งรูปที่ใช้ AI ในการปรับแต่ง Meta จะมีป้ายที่แสดงคำว่า “ถูกทำขึ้นโดย AI” กำกับไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด

ในการพัฒนา AI ทุกตัว Meta ได้คำนึงถึงหลักความถูกต้องและป้องกันไม่ให้มี ‘อคติใน AI’ เกิดขึ้น โดยทีมผู้พัฒนา Al-Dahle เปิดเผยว่า พวกเขาใช้เวลากว่า 1,000 ชั่วโมงในการฝึก "red-teaming" หรือกระบวนการที่ให้ AI พูดในสิ่งที่เป็นอันตรายและละเอียดอ่อน หลังจากนั้นก็ดำเนินการแก้ไขมัน

และเพื่อทำให้ AI ของ Meta มีความโปร่งใสมากที่สุดจึงเปิดตัว ‘System cards’ เพื่อให้ผู้คนรับรู้ว่าใน AI ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และสามารถเข้าใจการทำงานของมันได้อย่างถูกต้อง

อ้างอิง: about.fb, techcrunch