คลังเตือนซื้อ-ขาย Cryptocurrency อาจผิดกฎหมาย และมีสิทธิติดคุกได้

กระทรวงคลังเตือนซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency อาจทำผิดกฎหมายพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ มีสิทธิติดคุกได้ พร้อมเผยว่าระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กลต. และ ปปง. อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางดูแลสกุลเงินดิจิทัลอย่างเหมาะสม

bitcoin cryptocurrency

กระทรวงการคลังออกเอกสารข่าวฉบับที่ 13/2561 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 ในหัวข้อเรื่อง "ประกาศแจ้งเตือนซื้อ – ขายสกุลเงินดิจิทัลที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527"

โดยเอกสารข่าวจากกระทรวงการคลังระบุว่า ตามที่กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เคยแถลงข่าวสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลแก่ประชาชน เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 ในการนี้ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ชัดเจน ในข้อกฎหมายของพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ) และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2545 ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการชักชวนซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่มีการดำเนินการ กันอยู่ในขณะนี้

ชวนอ่าน : พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (เนื้อหาไม่ยาวมาก มีเพียง 8 มาตรา)

โดยกระทรวงการคลังแบ่งชี้แจงออกเป็น 4 ข้อ คือ

1. ปัจจุบัน “สกุลเงินดิจิทัล” อาจจะทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นสิ่งที่ชำระหนี้ได้และมีมูลค่าดังเช่นสกุลเงินสกุลหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เช่น Bitcoin เป็นต้น เป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช่เงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทย ซึ่งปรากฏตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ฉบับที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557

2. มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลเกิดจากอุปสงค์และอุปทานของตัวมันเองที่ทำให้มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นหรือลดลงโดยที่ตัวมันเอง ไม่มีกิจการใดที่ถูกต้องตามกฎหมายรองรับในการสร้างรายได้เพื่อการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน

3. มูลค่าของเงินสกุลดิจิทัลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เป็นแรงจูงใจทำให้ประชาชนสนใจที่จะซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เพราะคิดว่ามีผลตอบแทนสูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอาจส่งผลให้มีการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น

4. ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ ได้วางหลักข้อกฎหมายว่า ผู้ใดอยู่ในประเทศไทยโฆษณาหรือประกาศเชิญชวนให้ลงทุนใด ๆ ที่มีพฤติกรรมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูง โดยไม่มีกิจการใดที่ถูกต้องตามกฎหมายรองรับ อาจมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายนี้ ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

ทั้งนี้เอกสารข่าวระบุปิดท้ายว่า

ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางดูแลสกุลเงินดิจิทัลอย่างเหมาะสม

อ้างอิงข้อมูลจาก กระทรวงการคลัง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...

Responsive image

เจาะแผน 'Quick Win' รัฐ-เอกชน ผนึกกำลังดันครีเอเตอร์ไทยสู่อาชีพมั่นคง

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยน เมื่อเรากลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศทั่วโลกที่ 'ยอดผู้ใช้งาน TikTok แซงหน้า YouTube' อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขอ...