เมื่อวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ เครื่องปฎิกรณ์นิวเคลียร์แห่งใหม่ ในรอบเกือบ 7 ปี ของสหรัฐฯ เริ่มส่งพลังงานไปยังโครงข่ายไฟฟ้า

เครื่องปฎิกรณ์นิวเคลียร์แห่งใหม่ในรอบ 7 ปี

เครื่องปฎิกรณ์นิวเคลียร์เป็นแห่งที่ 3 ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Plant Vogtleใกล้เมือง Waynesboro รัฐจอร์เจีย โดยมีบริษัท Georgia Power เป็นเจ้าของ และมีชื่อว่า Westinghouse AP1000 ซึ่งจะผลิตพลังงานประมาณ 1,110 เมกะวัตต์ สามารถจ่ายไฟให้กับบ้านและธุรกิจประมาณ 500,000 หลัง และจะผลิตพลังงานและส่งกระแสไฟฟ้าไปอีก 60 ถึง 80 ปีข้างหน้า 

ในช่วงแรกเริ่มสร้างเครื่องปฎิกรณ์  Westinghouse AP1000 จะเป็นการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 2 แห่ง แบ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 3 และ 4 โดยเริ่มสร้างตั้งแต่วันที่ 22 เดือนมิถุนายน ปี 2009 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสร้างถึง 14 พันล้านดอลลาร์ ในตอนแรกคาดว่าจะเปิดใช้งานภายในปี 2016 หรือ 2017 แต่ก็กินระยะเวลายาวนานจนค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปจนถึง 30 พันล้านดอลลาร์

ปัจจุบันมีการเปิดใช้งานโรงงานแห่งที่ 3 อย่างเป็นทางการแต่สำหรับโรงงานแห่งที่ 4  คาดว่าจะเปิดใช้งานในไตรมาสที่ของปี 2023 หรือไตรมาสแรกของปี 2024 

นี่จึงเป็นการเปิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งใหม่ในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2016 ที่มีการหยุด ดำเนินการไปหลังจากที่หน่วยงาน Tennessee Valley Authority หรือ TVA เริ่มดำเนินการใช้ เครื่องปฎิกรณ์ Watts Bar Unit 2 ใกล้เมือง Spring City ในรัฐยูทาห์

Scott Burnell โฆษกของคณะกรรมการ Nuclear Regulatory กล่าวว่าก่อนหน้านั้น ก็ยังไม่มีการเปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เครื่องใหม่เลยตั้งแต่มีการดำเนินการใช้งานเครื่องปฎิกรณ์ Watts Bar 1 ในเดือนพฤษภาคม ปี 1996

ความสนใจในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น

การใช้พลังงานจากนิวเคลียร์ในสหรัฐอเมริกาเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 1970 และ 1980 แต่ความเชื่อมั่นในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ลดลงตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเครื่องปฎิกรณ์นิวเคลียร์ที่เกาะ Three Mile ในปี 1979 

แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์จะเกิดขึ้นให้เห็นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาไม่ว่าจะที่ ญี่ปุ่น, ยูเครน หรือที่สหรัฐอเมริกา แต่ความสนใจในการใช้พลังงานทดแทนอย่างพลังงานนิวเคลียร์กลับเพิ่มขึ้นซึ่งมีเหตุมาจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาวะโลกร้อน 

ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกาในปี 2022 พลังงานนิวเคลียร์มีส่วนช่วยผลิต พลังงานทดแทนที่คิดเป็น 47% สำหรับการผลิตไฟฟ้าที่ปราศจากคาร์บอนในสหรัฐอเมริกา และคิดเป็น 20% สำหรับไฟฟ้าทั้งประเทศมาตั้งแต่ปี 1990

ที่มา : CNBC, Georgia Power