OpenAI ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส 2024 ด้วยการเปิดตัวแคมเปญพิเศษ "12 Days of OpenAI" ซึ่งจะเผยข่าวดีและการอัปเดตที่น่าตื่นเต้นต่อเนื่องตลอด 12 วันเต็ม โดยเริ่มต้นแคมเปญด้วยการประกาศข่าวดีแรก คือการเปิดตัวอัปเดตโมเดลใหม่ o1 และเปิดให้บริการ ChatGPT Pro

OpenAI เปิดตัวโมเดล o1 และ ChatGPT Pro อย่างเป็นทางการ

OpenAI ประกาศเปิดตัว โมเดล o1 อย่างเป็นทางการ โดยพัฒนาจากเวอร์ชันทดลองกลายเป็นฟีเจอร์หลักในแพลตฟอร์ม ChatGPT โดยโมเดล o1 เปิดให้ผู้ใช้งาน ChatGPT Plus และ Team ทั่วโลกใช้งานก่อน และจะขยายให้ผู้ใช้ Enterprise และ Education เข้าถึงได้ในสัปดาห์ต่อไป

นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดตัว ChatGPT Pro ซึ่งมีราคาสมาชิกอยู่ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน (ราว 6,800 บาท) เน้นตอบโจทย์สำหรับผู้เชี่ยวชาญและองค์กรที่ต้องการ AI ที่ทรงพลังระดับวิจัย

เจาะเลึกความก้าวหน้าของโมเดล o1

ก่อนหน้านี้โมเดล o1 ได้ถูกปล่อยออกมาในช่วงเดือนกันยายน 2024 โดยถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากๆ เช่น การวิเคราะห์ภาพ การเขียนโค้ด และการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และล่าสุดทาง OpenAI ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมปล่อยอัปเดตให้โมเดลนี้ทรงพลังมายิ่งขึ้น อาทิ

1. ตอบสนองได้เร็วขึ้น
2. ลดข้อผิดพลาดสำคัญในโจทย์ซับซ้อนลง 34%
3. เพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์และอธิบายภาพ ช่วยขยายการใช้งานในสาขาต่าง ๆ เช่น การแพทย์และวิศวกรรม

จากการทดสอบประสิทธิภาพเบื้องต้นชี้ให้เห็นถึงความโดดเด่นของโมเดลนี้ เช่น o1-preview สามารถแก้ปัญหาข้อสอบคัดเลือก International Mathematics Olympiad ได้ถึง 83% เมื่อเทียบกับ GPT-4o ที่ทำได้เพียง 13%

ในด้านความปลอดภัย โมเดลนี้ยังทำคะแนนได้ถึง 84 ในการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวด เทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้เพียง 22 คะแนน นอกจากนี้ทางด้าน OpenAI ได้เผยถึงแผนการพัฒนาความสามารถของโมเดล o1 เพิ่มเติม อาทิ

• Web Browsing: ช่วยผู้ใช้งานค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
• File Uploads: เปิดให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดเอกสารหรือข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์
• Advanced API Integration: เพิ่มความสะดวกในการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ รวมถึงการวิเคราะห์ภาพ การเรียกใช้งานฟังก์ชันเฉพาะ และการสร้างผลลัพธ์ที่มีโครงสร้างชัดเจน

การพัฒนาเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อขยายศักยภาพของโมเดล o1 ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานในสาขา STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) ทำให้ OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT Pro เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเหล่านี้

ChatGPT Pro เหมาะกับใคร ไปทำความรู้จักกัน

อย่างที่ทราบกันดีว่า ChatGPT Pro คือ แพ็กเกจใหม่ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่มีความต้องการใช้งาน AI ที่มีประสิทธิภาพสูงมากๆ ซึ่งแพ็กเกจนี้มีคุณสมบัติเด่นและสิทธิพิเศษที่โดดเด่นกว่าแพ็กเกจอื่น ๆ ได้แก่:

1. ใช้ o1 รุ่นประสิทธิภาพสูงได้: รองรับการทำงานกับคำถามหรือปัญหาที่ซับซ้อน และช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและประมวลผลรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. ใช้ GPT-4o: ระบบที่มีความสามารถด้านการสร้างภาษาขั้นสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความลึกซึ้งในการตอบ เช่น การเขียนเนื้อหาเชิงวิชาการ หรือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
3. Advanced Voice: ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับ AI ผ่านเสียงได้

โดย ChatGPT Pro มีค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,800 บาท) หากเปรียบเทียบกับโมเดล ChatGPT ตัวอื่นๆ อย่าง ChatGPT Plus ราคา $20 ต่อเดือน สำหรับการใช้งานทั่วไป, หรือ ChatGPT Team ราคา $30 ต่อเดือน สำหรับทีม ก็เห็นได้ชัดว่า ChatGPT Pro นั้นมีราคาที่สูงกว่ามาก

นั่นเป็นเพราะมันออกมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ไม่ใช่การใช้งาน AI ในระดับทั่วไป อาทิ นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเฉพาะทาง หรือองค์กรที่ต้องการพัฒนาโซลูชันเชิงลึก

OpenAI จึงได้เปิดตัวโครงการ ChatGPT Pro Grant Program ซึ่งเป็นโครงการที่มอบสิทธิ์การใช้งาน ChatGPT Pro ฟรีให้กับผู้ที่ทำงานในสาขาที่ส่งเสริมประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ในระยะแรกของโครงการ OpenAI จะมอบทุนให้กับนักวิจัยทางการแพทย์จำนวน 10 ท่านที่มีผลงานโดดเด่น โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการวิจัย เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ การคิดค้นวิธีรักษาโรคใหม่ ๆ และการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

โครงการนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ OpenAI ในการลดข้อจำกัดด้านการเข้าถึงเทคโนโลยี AI สำหรับงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และอาจขยายผลไปยังสาขาอื่นในอนาคต เช่น การศึกษา หรือการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม

อ้างอิง: venturebeat , openai