'โอสถสภา' เผยไตรมาส 1/64 ยอดขายแตะ 6,776 ลบ. - กำไรสุทธิ 1,004 ลบ. ทำนิวไฮ หลังบริหารต้นทุนดี | Techsauce

'โอสถสภา' เผยไตรมาส 1/64 ยอดขายแตะ 6,776 ลบ. - กำไรสุทธิ 1,004 ลบ. ทำนิวไฮ หลังบริหารต้นทุนดี

บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP  โชว์ศักยภาพการดำเนินงานไตรมาส 1/64 สุดแกร่ง สร้างนิวไฮทั้งยอดขายและกำไร แม้ต้องเผชิญการระบาดของ COVID-19 โดยมีรายได้รวมจากการขาย 6,776 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น ปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ ย้ำชัดยืนหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงก์ในประเทศไทย ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังเติบโตเป็นเลข 2 หลัก 

คุณธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 1/64 (มกราคม-มีนาคม) แม้ธุรกิจยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ด้วยการบริหารธุรกิจที่ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถรับมือกับปัจจัยลบที่เกิดขึ้นได้ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ทำนิวไฮที่ 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

จากการสร้างความแข็งแกร่งของตราสินค้าในพอร์ตอย่างต่อเนื่อง พร้อมแผนการตลาดที่เน้นสร้างความผูกพันกับลูกค้า ทำให้สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 54.9% โดยมีแบรนด์เอ็ม-150 เป็นเบอร์ 1 ในตลาดรวม ในขณะที่แบรนด์โสมอินซัมซึ่งมีสินค้าใหม่ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรก็สามารถสร้างการเติบโตได้เป็นอย่างดี สำหรับเครื่องดื่มในกลุ่มฟังก์ชันนอลดริงก์นั้น แบรนด์ซีวิทยังคงรักษาความเป็นผู้นำตลาดและการเติบโต จากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ผลักดันให้มีส่วนแบ่งการตลาด 34.9% 

 ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มดีขึ้น ทำให้มีการขยายตัวอย่างโดดเด่น โดยเติบโต 11.6% สำหรับตลาดในประเทศเมียนมาร์นั้น หลังจากเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มในเมียนมาร์ในปีที่ผ่านมา รวมถึงการมีพันธมิตรทางธุรกิจและทีมบริหารในเมียนมาร์ที่มีความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับการดำเนินงานและกลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด จึงสามารถรักษายอดขายและการเติบโต แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติทั้งการระบาดของโควิด-19 และด้านการเมือง 

“ในไตรมาสแรกปีนี้ยังมีการระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจของโอสถสภาที่มีแผนบริหารจัดการที่ชัดเจน ทั้งการนำจุดแข็งของแบรนด์พอร์ตโฟลิโอเข้าไปช่วยสร้างการเติบโตให้แก่ยอดขายกลุ่มเครื่องดื่ม เครือข่ายช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแรง การปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตภายใต้โครงการ Fit Fast Firm ที่ดีต่อเนื่อง ทำให้เราประสบความสำเร็จในการผลักดันยอดขายและกำไรสุทธิด้วยตัวเลขนิวไฮ แม้มีปัจจัยลบในตลาดก็ตาม” คุณธนา กล่าว

เปิดแผยธุรกิจ ไตรมาส2/2564 ใช้จุดแข็งด้านแบรนด์พอร์ตโฟลิโอช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่-มุ่งเน้นสร้างความร่วมมือทางธุรกิจใหม่

ส่วนแผนงานในไตรมาส 2/64 บริษัทฯ ยังมุ่งตอกย้ำใช้จุดแข็งด้านแบรนด์พอร์ตโฟลิโอมาช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ เน้นการตลาดที่ตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพและอยู่บ้านมากขึ้น อาทิ  การออกบรรจุภัณฑ์ขนาด 1 ลิตรของแบรนด์ซีวิท 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นสร้างความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ เพื่อผลักดันการเติบโตและสร้างธุรกิจในอนาคต โดยจับมือกับพันธมิตรอย่างยันฮี วิตามิน วอเตอร์ เพื่อขยายตลาดเครื่องดื่มวิตามิน ตอบโจทย์กระแสการดูแลใส่ใจสุขภาพ และร่วมลงทุนพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพร รวมถึงสารสกัดจากกัญชา กัญชง (CBD) นอกจากนี้ ยังสร้างมิติใหม่ทางการตลาดด้วยการผนึกกำลังของผู้นำจากสองวงการแต่มีจุดเชื่อมโยงคือกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน โดยเอ็ม-150 และปูนตราเสือ ได้ร่วมกันออกแคมเปญ “ฮึดสู้อย่างเสือ หัวใจเกินร้อย” เจาะกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา ด้วยเครื่องดื่ม เอ็ม-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง X ปูนตราเสือ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น พร้อมของพรีเมียมที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงการผูกแคมเปญเข้ากับแพลทฟอร์มแต้มเอ็ม การร่วมมือทางธุรกิจดังกล่าว เป็นการนำจุดแข็งของโอสถสภาและพันธมิตรมาสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านใหม่แก่ผู้บริโภคและขยายไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต 




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

SCB EIC เผยผลกระทบจาก Trump 2.0 ฉุดเศรษฐกิจไทยปี 2568 เผชิญความท้าทายด้านการค้า การผลิต และการลงทุน

ในปี 2568 โลกจะเริ่มเผชิญกับความท้าทายจากผลของนโยบายเศรษฐกิจภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกว่า “Trump 2.0” ซึ่งถือเป็นการกลับมาใหม่ในเวอร์ชันที่มีอำนาจบริหารที่แข...

Responsive image

“Betagro Ventures” ร่วมลงทุน “Plantible” รอบ Series B มุ่งสร้างระบบอาหารที่มั่นคงและยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม Rubi Protein® ตอบโจทย์อาหารแห่งอนาคต

“BETAGRO Ventures” หน่วยงานด้านการลงทุนและพัฒนานวัตกรรม ภายใต้ “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” หรือ “BTG” ประกาศความสำเร็จในการร่วมลงทุน “Plantible” รอบ Series B มูลค่า 30 ล้านเหรีย...

Responsive image

ยกเลิกแบน iPhone 16 ไม่ง่าย อินโดฯ ยังไม่พอใจข้อเสนอลงทุน Apple ชี้ยังไม่เป็นธรรมสำหรับประเทศ

เรื่องราวระหว่าง Apple และอินโดนีเซียดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศแบน iPhone 16 ห้ามวางจำหน่ายในประเทศ ใครใช้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย...