เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (31 ม.ค.66) PayPal บริการชำระเงินระดับโลก ได้ประกาศปลดพนักงานทั่วโลกกว่า 2,000 คน คิดเป็น 7% ของพนักงานทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท Dan Schulman ประธานและซีอีโอ ระบุว่าบริษัทกำลังทำงานเพื่อจัดการกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย บริษัทมีความก้าวหน้าอย่างมากในการลำดับความสำคัญของทรัพยากรกับความสำคัญเชิงกลยุทธ์หลักขององค์กร และกำหนดโครงสร้างต้นทุนอย่างเหมาะสม แต่ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำสำหรับการเปลี่ยนที่กำจังจะเกิดขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมงานที่มีคุณค่าและเพื่อนที่กำลังจะจากไป เราจะเผชิญหน้าไปด้วยกัน ด้วยขนาดของแพลตฟอร์มระดับโลกของเราที่ไม่มีใครเทียบได้ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่เราทำเพื่อเสริมสร้างความสามารถหลักของเรา ตลอดจนความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้าของเรา
"เราต้องเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในขณะที่โลกของเรา ลูกค้า และ Competitive landscape เปลี่ยนไป”
ในรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สาม PayPal มีรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตามรายได้จากไตรมาสที่ 4 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ทำให้หุ้นร่วงลง โดย Gabrielle Rabinovich รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้คาดการณ์เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทในปี 2023 ไว้ว่า
“เราดำเนินงานในสภาพแวดล้อมที่เราคิดว่าเรายังคงมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยที่การเติบโตของมูลค่าที่แท้จริงของค่าจ้างจะยังคงติดลบเป็นระยะเวลาหนึ่ง ทำให้รายจ่ายแบบไม่ประจำ (discretionary spend)หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นจะอยู่ภายใต้แรงกดดัน”
เช่นเดียวกันกับบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง PayPal เป็นหนึ่งธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บริการชำระเงินแบบไร้สัมผัสและการใช้งาน e-Commerce พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การเติบโตนั้นได้ชะลอลง บริษัทจึงได้ประกาศความคิดริเริ่มในการลดต้นทุนเมื่อปีที่แล้วพร้อมกับการมุ่งเน้นไปที่จุดแข็งหลักอีกครั้ง โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะลดต้นทุนให้ได้ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง : CNBC , Marketwatch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด