หลายคนคงได้ยินชื่อ Community Token นามว่า 'Popcoin' สมาร์ทมาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์มในการทำการตลาดยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “Popcoin: Join to Earn” ที่บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป และ บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากัด บริษัทในเครือที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างคอนเทนต์และการตลาดดิจิทัล ได้มีการเปิดตัวเหรียญโทเคนดิจิทัลขึ้น เพื่อสร้าง Infrastructure ที่แข็งแกร่งและเป็นรากฐานในการทำงานให้แก่ อาร์เอส และพันธมิตรทางธุรกิจ
Community Join to Earn
ล่าสุด คุณ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อาร์เอส กรุ๊ป ไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่ปรับเปลี่ยนตามกระแสของโลก แต่เราเป็นผู้นำและสร้างเทรนด์จากการดึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเป็นเครื่องมือในการทำงาน
โดยปัจจุบันภายในบิซิเนสโมเดลเราใช้ศักยภาพของธุรกิจบันเทิง ธุรกิจสื่อ และธุรกิจพาณิชย์ เข้ามาทำงานร่วมกัน ทำให้เรามีบิซิเนสโมเดลที่โดดเด่นและแตกต่าง รวมทั้งปัจจุบันมีฐานลูกค้าจำนวนมหาศาลจากหลายธุรกิจในกลุ่มของเรา และเราสามารถสร้างอีโคซิสเต็มที่มีศักยภาพ มีความพร้อมตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ แต่กระนั้นในความสมบูรณ์ก็ยังมีช่องโหว่เล็กๆ เราจึงพยายามค้นหาโซลูชั่นที่จะทำให้เรามีประสิทธิภาพในการทำธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของ ‘Popcoin’ ซึ่งนับเป็นย่างก้าวสำคัญของ RS ในการยกระดับ Entertainmerce ด้วยการนำเอาจุดแข็งของทั้งธุรกิจ Commerce และ Entertainment มารวมกัน กลายเป็น Entertainmerce คือ ต้องเอาความบันเทิง ศิลปิน ครีเอทีพ มาทำงานร่วมกัน เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของ RS ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ในช่วงที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการทรานส์ฟอร์มองค์กรผ่านโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าบริษัทฯยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจากวิกฤติต่างๆ และวันนี้บริษัทฯพร้อมแล้วที่จะแบ่งปันให้ทุกคนสามารถนำโมเดล Entertainmerce ที่ใช้ศักยภาพของคอนเทนต์และบันเทิงมาผนึกกำลังกับคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ นำไปต่อยอดในการสร้างช่องทางรายได้ใหม่ๆ และแก้ปัญหาทางการตลาด ผ่านการใช้ “Popcoin Platform” ซึ่งส่งผลให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลบนแพลตฟอร์มไปใช้วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการและกิจกรรมทางการตลาดได้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น"
นอกจากนี้ หลังจากการ Soft launch ผ่านแคมเปญ Popcoin Airdrop ในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา มีผู้สมัครเป็น Popster กว่า 5 แสนราย และคาดว่าจะพุ่งทะลุ 1 ล้านรายภายในเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลเมืองไทย ที่มีผู้ให้ความสนใจและได้รับการยอมรับอย่างล้นหลามตั้งแต่วันแรกที่มีการประชาสัมพันธ์ออกไป และเป็นก้าวใหม่ของคนทำงานด้านคอนเทนต์และบันเทิง รวมถึงเป็นก้าวสำคัญที่จะพลิกโฉมการทำกลยุทธ์ทางการตลาดไปอีกขั้น ทั้งเรายังต่อยอด Popcoin ในเชิงธุรกิจได้อีกมาก ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการผลักดันผลประกอบการของบริษัทให้สามารถเติบโตอย่างเข้มแข็งได้
ทั้งนี้ คุณสุรชัย ได้กล่าวเสริมว่า Popcoin ไม่ใช่เพียงแค่ Digital token แต่คือ Smart Marketing Platform โดยจะมีบทบาทสำคัญสองเรื่องคือ 1.เป็นตัวสร้าง Seamless data นั่นหมายความว่าฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลที่อยู่เป็นก้อน ต่อไปนี้จะถูกเชื่อมโยงกลายเป็น Bigdata ขนานแท้ด้วย Popcoin
2.Popcoin จะเข้ามาทำเรื่องของ Seamless Experience Customer จะทำให้ลูกค้าได้บริการและโปรดักท์ที่ดี ตรงใจ ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อแบรนด์ โดยทั้งหมดนี้จะทำให้เราดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อ Entertainmerce เรามีศักยภาพและมีความพร้อม จึงเป็นเวลาที่ดีที่จะแบ่งปันบิซิเนสโมเดลให้กับพาร์ทเนอร์ได้เข้ามา Enjoy ด้วยกันผ่าน Popcoin
เป้าหมายสู่การเป็นแพลตฟอร์มกลาง
ด้าน คุณฐณณ ธนกรประภา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ โฟร์ท แอปเปิ้ล กล่าวเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์ม ‘Popcoin Platform’ จะเป็นเครื่องมือเติมเต็มความต้องการ สร้างโอกาสทางการตลาด และผลประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดใน “Popcoin Ecosystem” ซึ่งได้แก่ แบรนด์ สปอนเซอร์ ผู้สร้างคอนเทนต์ รวมถึงผู้บริโภค
ในขณะที่ RS จะได้รับประโยชน์ในแง่การนำข้อมูลมาขยายผลิตภัณฑ์และบริการ และสร้างกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งการเชื่อมโยงของข้อมูลและการสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อผ่าน Popcoin
โดยเป้าหมายของการผลิตเหรียญใน 4 ปีแรก อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านเหรียญ หรือเฉลี่ยประมาณปีละ 2,500 ล้านเหรียญ โดยหลักๆการเพิ่มขึ้นของเหรียญจะมาจากฐานผู้ใช้งานที่เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น
โดยการทำงานของ Popcoin มีหลากหลายมิติ ดังนั้น Popcoin จึงไม่ใช่แค่เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคนแต่ละกลุ่มคนเข้าด้วยกัน ด้วยโมเดลที่เรียกว่า ‘Join to Earn’ แค่เข้ามามีส่วนร่วมกับเราไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ หรือผู้สร้างคอนเทนต์ Popcoin จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มการมองเห็น ช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดลูกค้ามากกว่าที่เคย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและวัดผลได้จริง อีกทั้งยังเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ หรือหากเป็นผู้บริโภคที่ใช้ Popcoin ก็จะช่วยให้คุณเข้าถึงความสนุกได้หลากหลายและง่ายยิ่งขึ้น ใกล้ชิดกับศิลปินที่ชื่นชอบมากขึ้น แลกสินค้า ของสะสม เข้าถึงคอนเทนต์ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบที่พิเศษขึ้น และยังสามารถนำ Popcoin ไปแลกเปลี่ยนใน “Exchange Platform” กระดานซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อสร้างรายได้เพิ่มได้อีกด้วย”
ฐณณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มี Content and Brand Collaboration ที่เข้ามาร่วมกับ Popcoin มีหลายรายแล้ว อาทิ ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี- เทโร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดคอนเสิร์ตนานาชาติระดับโลกในประเทศไทย, High Cloud Entertainment ค่ายเพลงของ กอล์ฟ F.HERO, คณะหมอลำเสียงอิสาน, VOM Records ค่ายเพลง Rock น้องใหม่, คานิวัล แบรนด์สตรีทแฟชั่นชั้นนำของไทย, UNLOCKMEN พับบลิชเชอร์ออนไลน์อันดับ 1 สำหรับผู้ชาย, Pet Hipster สื่อและนิตยสารออนไลน์สำหรับคนรักสัตว์, Full Sense ผู้ขับเคลื่อนวงการ eSport ในประเทศไทยและทั่วเอเชีย, Female Idol Trade Association (FITA) สมาคมการค้าธุรกิจไอดอลหญิง และ Bhouse Studio โรงเรียนสอนเต้นระดับแนวหน้าของประเทศไทย
"โปรเจ็กต์นี้ในช่วงเริ่มต้นในแง่ของการลงทุนไม่ได้ใช้มากนัก แต่ใช้เวลากับการ Design use case เพื่อให้ตอบโจทย์ และเป็นแบบที่ต้องการเพื่อแก้ปัญหาและประโยชน์ของการทำงาน หลังจากนี้จะเป็นในแง่ของการวางแผนโดยเฉพาะการชวนพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วม และจัดกิจกรรมเพื่อให้ Popster ได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วม โดยจะมีการทำเป็นเฟสๆ"
ซึ่ง คุณฐณณ มองว่า Popcoin จะเป็นกลไกสำคัญในการทำตลาด เพิ่มมูลค่าให้กับกิจกรรม และสร้างสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับคอนเทนต์ในอนาคต รวมถึง Business Partner ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ที่จะนำเหรียญไปใช้ในกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และเป็นอีกช่องทางสำคัญในการกระจายเหรียญไปยังผู้บริโภค ได้แก่ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด, บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน), บริษัท อินดีม กรุ๊ป จำกัด, บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน), อาร์เอส มอลล์, คามู ซี, เวล ยู, ไลฟ์เมต, ไวตาเนเจอร์พลัส, สถานีโทรทัศน์ช่อง 8, คูลลิซึ่ม, อาร์เอส มิวสิค และจะมีอีกหลายแบรนด์ชั้นนำตามมา
นอกจากนี้ยังมองว่า ในอนาคตวงการสื่อและบันเทิงสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์จากดิจิทัลโทเคนได้สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ในกิจกรรมร่วมกันระหว่างแฟนคลับกับศิลปินดาราที่ชื่นชอบ และมีสิทธิ์ที่จะได้ร่วมกิจกรรมพิเศษหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เงินก็ซื้อไม่ได้ นอกจากนั้น แล้วกระแสของเมตาเวิร์สหรือโลกเสมือนจริงกำลังมาและบล็อกเชนก็มีประโยชน์ในการเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังมูลค่าของสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใน เมตาเวิร์ส ในส่วนนี้ ดิจิทัลโทเคนจะมีมูลค่าในโลกเสมือน แน่นอนว่าผู้พัฒนาย่อมต้องมีความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลายในการสร้างการใช้งาน เช่น อาจมีป้ายโฆษณา คอนเสิร์ต หรือรูปภาพ NFT เรียกได้ว่าจะเป็นอีกมิติใหม่ของอุตสาหกรรมบันเทิง ที่ดิจิทัลโทเคนจะได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
และที่พิเศษสุด Popcoin ยังคว้า แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ศิลปินระดับโลกชื่อดัง เข้ามาร่วมงานในฐานะ Platform Partner โดยจะทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวแทนหรือสื่อกลางในการนำเสนอแพลตฟอร์ม Popcoin ให้แก่คนรุ่นใหม่ พร้อมถ่ายทอดไลฟ์สไตล์อันเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และการเข้าถึงประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วย Popcoin และในฐานะที่เป็นศิลปินไอดอลชื่อดังระดับโลก แบมแบมจะมีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด