ตามที่มีข่าวว่าคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) มีมติเห็นชอบ เสนอแต่งตั้ง ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคนใหม่ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หน่วยงานในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2565 นั้น 

ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ 

ตำแหน่งผู้อำนวยการคนใหม่ของ สวทช. นับว่าเป็นประเด็นที่มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะ คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) ได้สรรหาคนนอก สวทช มาเป็นผู้อำนวยการเป็นครั้งแรกจึงน่าสนใจอย่างยิ่ง 

ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของโลก มีชื่ออยู่ในทำเนียบ World’s Top 2% Scientists ซึ่งจัดอันดับโดย Stanford University และ ยังได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ ก่อนอายุ  35 ด้วย

ศ.ดร.ชูกิจ เคยเป็นนักเรียนทุนโครงการ พสวท. ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาฟิสิกส์ จาก Case Western Reserve University ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานในศูนย์วิจัยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา คือที่ National Renewable Energy Lab. (NREL), Oak Ridge National Lab (ORNL) และมีประสบการณ์ทำงานในศูนย์วิจัยของบริษัทเอกชน Xerox Palo Alto Research Center (PARC) ที่ Silicon Valley อีกด้วย 

สำหรับการทำงานในประเทศไทย ศ.ดร.ชูกิจ ได้เริ่มงานเป็นอาจารย์ในสาขาวิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  มีผลงานวิจัยจนได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทางฟิสิกส์คำนวนและทฤษฎี ศูนย์ความเป็นเลิศด้านฟิสิกส์ (ThEP Center) และ เป็นนายกสมาคมฟิสิกส์ไทย พร้อมทั้งเป็นหัวหน้าโครงการจัดตั้งสถานร่วมวิจัย มทส.-นาโนเทค-สซ. เพื่อการใช้แสงซินโครตรอน ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการสร้าง สถานีทดลอง SUT-NANOTEC-SLRI Beamline เป็นสถานีทดลอง Synchrotron X-ray Absorption Spectroscopy อีกด้วย ศ.ดร.ชูกิจ ได้รับการยอมรับด้านการวิจัยทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ มีผลงานการตีพิมพ์งานวิจัยโดดเด่นที่ปรากฏในฐานข้อมูล Web of Science จำนวนกว่า 100 เรื่อง ได้รับการอ้างถึงรวมแล้วกว่า 7,000 ครั้ง และมีค่า h-index = 40 ซึ่งผลงานวิจัยหลายเรื่องได้สร้างผลกระทบในการพัฒนาวัสดุสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เชิงแสงที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน 

ศ.ดร.ชูกิจ ในปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มีผลงานโดดเด่นในวาระการทำงานหลายเรื่อง เช่น (1) เป็นแกนหลักในการผลักดันให้มีโครงการจัดตั้งสถาบันไทยโคเซ็น (KOSEN) (โครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมสนับสนุนการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค) ซึ่งเป็นการนำการพัฒนาวิศวกรนักปฏิบัติตามแนวทางการพัฒนาของญี่ปุ่นมาใช้ โดยโครงการผ่าน ครม. ในงบประมาณโครงการ 4,700 ล้านบาท มีการเจรจาร่วมมือกับสถาบัน National Institute of Technology ของญี่ปุ่น และ JICA ในการร่วมสนับสนุน (2) การนำเทคโนโลยีการอบรมครูออนไลน์ มาอบรมครูทั่วประเทศในด้าน Coding ร่วมกับ สพฐ. ทำให้อบรมครูได้มากกว่า 200,000 คน (3) การแปลงหนังสือเรียนเป็นคลิปเพื่อการเรียนการสอนออนไลน์ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และ เทคโนโลยี ที่ครบสมบูรณ์ทุกระดับทั้งประถมและมัธยม โดยเปิดให้ ครู นักเรียนและ ผู้ปกครองจากทั่วประเทศเข้าถึงได้ฟรีทั้งทาง YouTube และ Facebook เป็นครั้งแรก 

จากผลงานและประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของ ศ.ดร.ชูกิจ ทำให้คนมีความเชื่อมั่นได้ว่าจะนำพาศักยภาพการแข่งขันทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยในอนาคต ที่จะสามารถส่งเสริมและผลักดันงานวิจัยไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากล พร้อมนำไปใช้ประโยชน์ได้ในแต่ละด้าน ตรงตามความต้องการของประเทศ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมถึงการดึงดูดเม็ดเงินลงทุน ที่จะช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก รวมถึงสตาร์ทอัพ ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในโลกใหม่ ที่ประเทศไทยต้องการมุ่งเน้นไปที่ BCG Economy นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม