ปตท. จับมือกลุ่มบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก Energy Web Foundation (EWF) มุ่งนำ Blockchain มาใช้ในธุรกิจพลังงานแล้ว | Techsauce

ปตท. จับมือกลุ่มบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก Energy Web Foundation (EWF) มุ่งนำ Blockchain มาใช้ในธุรกิจพลังงานแล้ว

เราอาจได้ยินข่าวว่า Blockchain สามารถมาช่วยภาคธุรกิจพลังงานได้ และนี่ถือเป็นข่าวดีของไทยเมื่อ ปตท. เตรียมพร้อมก้าวสู่ธุรกิจพลังงานในยุค 4.0 ร่วมกับกลุ่มบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก Energy Web Foundation (EWFพัฒนาการใช้เทคโนโลยี Blockchain สำหรับการใช้พลังงานในอนาคต

ในโลกที่ใครๆ ก็พูดถึงความเป็น 4.0 ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างต้องมีการปรับตัวให้ผลิตภัณฑ์และบริการของตนเองตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอล ธุรกิจพลังงานเองก็เช่นกันที่ในอนาคตจะมีรูปแบบที่แตกต่างจากธุรกิจพลังงานที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ โดยสาเหตุหลักเกิดจากแนวโน้มใหม่ในด้านพลังงาน 3 ประการ คือ การใช้พลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้าที่มีมากขึ้น (Electrification)การกระจายตัวออกของแหล่งพลังงาน (Decentralizationและ การใช้เทคโนโลยีดิจิตอล(Digitization)

โดยจากแนวโน้มทั้งสามข้างต้นก่อให้เกิดการบริการพลังงานในรูปแบบใหม่ที่ คนหรือผู้บริโภคไม่ได้อยู่ปลายสุดของห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) อีกต่อไป แต่เป็นศูนย์กลางหรือหัวใจของ Value Chain ซึ่งการผลิตพลังงานไม่ได้เริ่มจากแหล่งผลิตขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะเกิด “Distributed Energy Resources (DERs)” หรือแหล่งพลังงานทางเลือกที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆและอยู่ใกล้ตัวผู้บริโภคมากขึ้น และจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยแนวโน้มการเติบโตของ DERs นั้นเห็นได้ชัดจากการที่รัฐบาลในหลายประเทศและบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุน DERs โดยมีการลงทุนในธุรกิจและ Startups ที่เกี่ยวข้องอย่างก้าวกระโดดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาด้าน DERs เพื่อประโยชน์ต่อผู้ใช้พลังงานภายในประเทศ และเสริมความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย จึงมีแนวทางที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่นี้

โดยในเบื้องต้น ทีม Express Solutions (ExpresSoหรือ ทีมสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ ของ ปตท. เพื่อนำไปสู่การสร้างธุรกิจใหม่ที่เรียกว่า New S-Curve ให้กับกลุ่ม ปตท. ได้ริเริ่มวิจัยและพัฒนาการใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อประยุกต์ให้เข้ากับธุรกิจพลังงาน โดยในช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา ปตท. ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOUกับ Energy Web Foundation (EWFองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งจัดตั้งขึ้นโดย Rocky Mountain Institute (RMI) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เป็นที่ปรึกษาในการกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย และรูปแบบธุรกิจ ทางด้านพลังงานสะอาดและการลดคาร์บอนให้กับหลายรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น New York และ Colorado  รวมถึงในต่างประเทศ เช่น จีน และ อินเดีย เป็นต้น ร่วมกับ บริษัท Grid Singularity ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain เฉพาะสำหรับธุรกิจพลังงาน และความร่วมมือของบริษัทพลังงานชั้นนำระดับโลก อาทิ Shell, Engie, TEPCO, Singapore Power ฯลฯ เพื่อร่วมวิจัยและพัฒนาโครงการต้นแบบในการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ให้เห็นผลจริงในภาคธุรกิจ และ จึงถือได้ว่า ปตท. เป็นตัวแทนของประเทศไทยที่เข้าไปร่วมสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกควบคู่ไปกับบริษัทชั้นนำในด้านพลังงาน และปตท.จะเป็นส่วนช่วยให้ประเทศไทยก้าวทันเทคโนโลยีด้านพลังงานใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยในเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมานั้น ปตท.ร่วมกับ EWF ได้พัฒนา Open Platform ในการทดสอบเทคโนโลยี  Blockchain เฉพาะสำหรับธุรกิจพลังงาน ที่มีชื่อว่า Tobalaba เป็นผลสำเร็จและเริ่มเปิดให้บริษัท Start-up และบริษัทเทคโนโลยีจากทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ที่สนใจในการสร้างธุรกิจ DERs เข้ามาร่วมทดสอบในการสร้าง application ต่างๆ และคาดว่าจะพร้อมสำหรับใช้งานได้จริง ภายใน มีนาคม พ.ศ. 2562

ผู้ที่สนใจพัฒนา application บน Tobalaba สามารถเข้าศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือ ติดต่อทีมงาน ExpresSo ได้ที่ [email protected]

ส่วน EWF Affiliates มีใครบ้างดูได้ที่นี่เลย


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

มองศึก Virtual Bank ไทย เทียบชั้นผู้เล่นบนเวทีโลกได้หรือไม่

หลังจาก ธปท. เปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจจัดตั้ง Virtual Bank ยื่นขอเข้ามา ส่งผลให้ธุรกิจการเงินในไทยกลับมาคึกคักมากขึ้น...

Responsive image

Google Workspace อัปเกรดครั้งใหญ่ ! ดึงพลัง AI พลิกโฉมการทำงาน

Google Workspace บริการชุดแอปพลิเคชันผ่านระบบคลาวด์ ได้รับการยกเครื่องครั้งใหญ่ด้วยการผสานความสามารถของ Generative AI ในหลากหลายแอปพลิเคชันยอดนิยม เพื่อช่วยให้การทำงานเป็นเรื่องที่...

Responsive image

จาก ลี เซียงลุง สู่ ลอว์เรนซ์ หว่อง ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนที่ 4

ลี เซียนลุง ได้สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ในวันที่ 16 เมษายน 2024 ก่อนจะส่งไม้ต่อให้ ลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกรั...