SCB EIC ประเมิน เศรษฐกิจไทย ใน Q1 2020 เข้าสู่สภาวะถดถอยจากผลกระทบโดย COVID-19 คาดตัวเลขไตรมาสที่ 2 หนักที่สุด ชี้การฟื้นตัวจะเกิดขึ้นครึ่งปีหลังแบบค่อยเป็นค่อยไป
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2020 หดตัวที่ -1.8%YOY (นับเป็นการหดตัวครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 1/2014 และหดตัวมากที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 4/2011) โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคแล้ว (technical recession) หลัง GDP แบบ %QOQ sa หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2020 หดตัวที่ -1.8%YOY เป็นการหดตัวครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2014และหดตัวมากที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2011 ที่ไทยประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่ และถือว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว (Recession) จากการที่เศรษฐกิจหดตัวเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าแบบปรับฤดูกาล (%QOQ sa) ติดต่อกัน 2 ไตรมาส (ไตรมาสที่ 4 ปี 2019 -0.2%QOQ sa และไตรมาสที่ 1 ปี 2020 -2.2%QOQ sa)
เศรษฐกิจไทยด้านการใช้จ่าย (Expenditure Approach) ได้รับแรงกดดันจากภาคส่งออก ภาคท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชน ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และรวมถึงรายจ่ายภาครัฐที่ลดลงจากความล่าช้าของการจัดทำ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2020
ในด้านการผลิต (Production Approach) ภาคเกษตรหดตัวมากจากผลของภัยแล้ง ภาคการผลิตอุตสาหกรรมหดตัวตามการส่งออก ส่วนด้านบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมีการหดตัวในระดับสูง ขณะที่การก่อสร้างหดตัวมากจากทั้งการลดลงของการก่อสร้างภาคเอกชนและภาครัฐ
เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2020 ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก COVID-19 ผ่านภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าเป็นสำคัญ สังเกตได้จากภาคการผลิตด้านโรงแรมและภัตตาคารที่หดตัวไปกว่า -24.1%YOY ขณะที่ด้านการส่งออก แม้ในภาพรวมจะสามารถขยายตัวได้ในช่วงไตรมาสแรก แต่การขยายตัวส่วนใหญ่มาจากการส่งออกทองคำที่จะไม่ถูกนับเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยหากหักทองคำ มูลค่าการส่งออกจะหดตัว ซึ่งส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมลดลง -2.7%YOY อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกได้รับผลบวกจากการบริโภคสินค้าจำเป็น (Non-discretionary items) ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการกักตุนสินค้าก่อนที่จะมีการปิดเมือง นอกจากนี้ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตในบ้านและ work from home ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ เฟอร์นิเจอร์ และการสื่อสาร (ค่าอินเทอร์เน็ต) เป็นต้น
ในระยะต่อไป EIC คาดเศรษฐกิจไทยจะหดตัวมากสุดในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2020 จากผลกระทบมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ทั่วโลก โดยการปิดเมืองจะทำให้เกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วโลก (sudden stop) ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคส่งออกของไทย ผ่านเศรษฐกิจโลกที่หดตัวและปัญหาด้าน supply chain disruption โดยจากรูปที่ 4 จะเห็นได้ว่าเครื่องชี้การส่งออกของโลก (Global PMI: Export orders) ในเดือนเมษายนลดลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนว่าการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 จะหดตัวในระดับสูง
นอกจากการส่งออกที่มีแนวโน้มลดลง ภาคท่องเที่ยวของไทยก็จะหดตัวในระดับสูงเช่นกัน โดยการปิดการเดินทางเข้าออกประเทศของไทย ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวหายไปเกือบ 100% ในช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน (รูปที่ 5) ประกอบกับการปิดเมืองที่ห้ามการเดินทางข้ามจังหวัด ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงภาคขนส่ง และการค้าขายหลายประเภทที่ต้องปิดกิจการชั่วคราว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 หดตัวลึกที่สุดในปีนี้
ทั้งนี้ EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี บนสมมติฐานสำคัญว่าจะต้องไม่มีการระบาดอีกรอบของ COVID-19 อย่างไรก็ดี แม้เศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มฟื้นตัวจากช่วงไตรมาส 2 (%QoQ sa เป็นบวก) แต่หากคำนวณเทียบกับปีก่อนหน้า คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวทั้งปี 2020 นี้ (%YOY เป็นลบ)
เม็ดเงินจากมาตรการภาครัฐจะมีส่วนอย่างมากในการประคับประคองเศรษฐกิจไทยในปี 2020 โดยมาตรการที่จะมีผลต่อภาคเศรษฐกิจปีนี้คือ พ.ร.ก. กู้เงินในวงเงิน 1 ล้านล้านบาท ที่แบ่งเป็นสองส่วนคือ 1) วงเงินสำหรับช่วยเหลือรายได้ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบและเกษตรกรวงเงินกว่า 5.55 แสนล้านบาท ซึ่งมีการเบิกจ่ายเงินบางส่วนไปแล้วตามนโยบายช่วยเหลือเงินผู้ได้รับผลกระทบเดือนละ 5 พันบาทต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ประกาศช่วยเหลือเกษตรกรในจำนวนเงินเท่ากันที่ 5 พันบาทต่อคน ในระยะเวลา 3 เดือน และ 2) วงเงินสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมอีก 4 แสนล้านบาท โดยเม็ดเงินจำนวน 1 ล้านล้านบาท จะไม่ได้เข้าสู่เศรษฐกิจปีนี้ทั้งหมด แต่จะทยอยเข้าพยุงเศรษฐกิจในช่วงปัจจุบันจนถึงเดือนกันยายนปี 2021 ขึ้นอยู่กับแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง EIC ประเมินว่าเม็ดเงินดังกล่าวเป็นเม็ดเงินที่ใหญ่พอสมควร จึงน่าจะมีส่วนช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในปี 2020 นี้ได้ระดับหนึ่ง ซึ่งต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปถึงขนาดเม็ดเงินและรายละเอียดนโยบายที่จะมีการจัดทำในระยะต่อไป
Cover Photo by allPhoto Bangkok from Pexels
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด