ส่องสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย กลุ่มหุ้นใดจะได้รับอานิสงส์จากเลือกตั้ง 66

หากมองซ้าย มองขวา ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลจากระดับสายตา คุณก็จะเห็นบรรดา 'ป้ายหาเสียง' ของพรรคการเมืองที่เริ่มถูกนำมาติดเต็มสองข้างทาง สิ่งเหล่านั้นสะท้อนให้เรารู้ว่าเริ่มเข้าสู่บรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งแล้วเป็นแน่ 

กลุ่มหุ้นใดจะได้รับอานิสงส์จากเลือกตั้ง 66

โดยการเลือกตั้งได้มีกำหนดการออกมาแล้วว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 2566  และในช่วงการเลือกตั้งนี้เอง ก็ทำให้บรรยากาศทางการเมืองมักจะมีความคึกคักเป็นพิเศษ

แต่ทั้งนี้ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่คึกคักไม่แพ้กันนั่นก็คือ "ตลาดหุ้น" ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว หลายบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ได้มีการออกมาประเมินสถานการณ์ตลาด รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์จากการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น Techsauce จะพาไปเจาะลึกถึงสถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นว่าเป็นอย่างไร ? แล้วหุ้นกลุ่มใดจะได้รับอานิสงส์จากช่วงการเลือกตั้ง 66 ที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้ ?

เปิดสถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ?

คุณชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตอนนี้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยภาพของตลาดอยู่ในภาวะมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างที่จะเบาบาง หลังจากที่บ้านเราจะเข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาว ประกอบกับถ้ามองปัจจัยจากภายนอกซึ่งก็คือต่างประเทศ ดังนั้นโฟกัสหลักในระยะ 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าก็เป็นการติดตามในแง่ของตัวเลขเศรษฐกิจของฝั่งสหรัฐฯ เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของตัวเลขภาคแรงงาน อย่างเช่น Non-Farm Payrolls (NFP), Unemployment Rate, Rate Growth และสัปดาห์หน้าเป็นเรื่องของรายงานเงินเฟ้อ ซึ่งตรงส่วนนี้ประเด็นที่ต้องติดตามจะเป็นการติดตามในส่วนของภาพของตัวเลขว่าจะมีทิศทางอย่างไร 

ซึ่งหากออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด ตรงส่วนนี้จะทำให้ความกังวลกับในมุมของเงินเฟ้อของทางสหรัฐฯ ลดลง และในส่วนของการตีความกับดอกเบี้ยของเฟดว่าจะเข้าสู่ปลายวงจรขาขึ้น ซึ่งจะมีน้ำหนักมากขึ้น

แต่อีกด้านหนึ่ง หากประเด็นนี้ออกมาต่ำกว่าคาด ความเสี่ยงของเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ก็จะเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งเป็นโฟกัสหลัก ๆ ที่ต้องติดตาม ขณะที่ของไทยในระยะถัดไปหลังจากเปิดสงกรานต์ตลาดจะให้น้ำหนักในแง่ของการประกาศงบของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่จะเริ่มตั้งแต่ 18 เมษายน 2566 เป็นต้นไป และหลังจากนั้นจะเป็นช่วงของการไปมองในแง่ของการพรีวิวงบไตรมาส 1 ที่จะเริ่มทยอยประกาศออกมามากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นบรรยากาศโดยรวม

เพราะฉะนั้นในช่วงสั้น ๆ ตอนที่ปัจจัยแวดล้อมไม่ได้มีแรงขับเคลื่อนอะไร มูลค่าซื้อขายจึงเบาบางลง ดังนั้นแม้ตลาดจะขึ้น-ลง ก็คงไม่รุนแรงนัก 

Outperform รับอานิสงส์เม็ดเงินสะพัด “ก่อนเลือกตั้ง”

ส่วนกลุ่มหุ้นที่มักจะได้รับการปรับขึ้นก่อนการเลือกตั้ง จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มใดบ้าง ? คุณชาญชัย เผยว่า หากมองในมุมของตัวการเลือกตั้ง และดูในแง่สถิติในส่วนของก่อนการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 2544-2562 ที่เราทำเป็นสถิติออกมา พบว่าผลตอบแทนก่อนการเลือกตั้ง 1 เดือน หุ้น หรือ Set Index  จะขึ้นประมาณ 1% โดยเฉลี่ย และหุ้นในกลุ่มที่ Outperform ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับ Domestic Consumption ที่คาดหวังว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งมีหุ้นอย่างกลุ่มค้าปลีก, ไฟแนนซ์, และ ICT ซึ่งมักจะเป็นหุ้นที่ Outperform

สถานการณ์หลังการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ?

จากสถิติในช่วงเวลาเดียวกันในช่วงหนึ่งสัปดาห์แรกจะปรับขึ้นได้ โดยเฉลี่ยประมาณ 38% ซึ่งถือว่ายังมีโอกาส แต่ถามว่าจะมองยังไงนั้นก็ต้องไปดูผลการเลือกตั้งว่าสิ่งที่ตลาดมอนิเตอร์อยู่คือ 1.เสถียรภาพของรัฐบาล คะแนนเสียงออกมาจะเป็นอย่างไรในแง่ของการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากจะเป็นเสียงข้างมากที่การจัดพรรคมาจากไม่กี่พรรค ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นหากดูแล้วมีเสถียรภาพ ถัดมาตลาดจะดูในเรื่องของ นโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะหนุนในมุมของตลาดหุ้นมากน้อยแค่ไหน ?

"หากทั้งสองข้อออกมาเป็นเชิงบวก ตลาดน่าจะปรับขึ้นต่อ แต่หากออกมาในมุมที่เป็นการที่พรรคแต่ละพรรคชนะกันไม่เด็ดขาด การรวมรัฐบาลมาจากหลาย ๆ พรรคเหมือนรอบที่ผ่าน ๆ มา ตลาดก็อาจจะไม่ได้ตอบรับในเชิงบวกมากนัก เพราะในเรื่องของนโยบายต่าง ๆ ที่ออกมา ดังนั้นแรงขับเคลื่อนก็อาจจะช้าลง" 

ทั้งนี้ในกลุ่มหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากนโยบายหาเสียงการเลือกตั้งของแต่ละพรรคการเมือง ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก ยกตัวอย่างเช่น CPALL MAKRO ส่วนไฟแนนซ์ เช่น BBL SCB KBANK JMT THANI SAWAD และ ICT เช่น ADVANC

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

BOI ไฟเขียวลงทุนส่งท้ายปี! อนุมัติ Data Center 11 โครงการ มูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ดันไทยสู่ Digital Hub เต็มตัว

BOI ภายใต้การนำของคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศอนุมัติการลงทุนครั้งสำคัญส่งท้ายปี โดยมียอดเงินลงทุนรวมกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

OpenAI ดึงอดีต CEO Slack ‘Denise Dresser’ นั่งแท่น Chief Revenue Officer เร่งปั่นรายได้กลางสมรภูมิ AI

OpenAI แต่งตั้ง Denise Dresser อดีต CEO ของ Slack เป็น Chief Revenue Officer คนแรก เร่งสร้างรายได้ เดินเกมรุกตลาดองค์กร พร้อมส่งสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์ม AI เชิงพาณิชย์เต็มรูป...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 โมเดลเพื่อคนทำงาน เก่งขึ้นทั้ง Excel รูปภาพ โค้ด และงานซับซ้อน

OpenAI เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ GPT-5.2 อย่างเป็นทางการ หลังมีรายงานว่า Sam Altman ซีอีโอของบริษัทได้ประกาศสถานะ “Code Red” ภายในองค์กรเมื่อต้นเดือนธันวาคม เพื่อสั่งหยุดเกือบทุกโค...