จากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทั่วโลก ส่งผลให้หลากหลายประเทศนั้นต้องใช้มาตรการล็อคดาวน์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสจากต่างประเทศ แน่นอนว่าหลายธุรกิจนั้นได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์นี้ แต่ธุรกิจที่เหมือนจะได้รับผลกระทบทางตรงที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น 'ธุรกิจการบิน' นั่นเอง
ไม่เพียงแต่มาตรการล็อคดาวน์เท่านั้นที่ทำให้ธุรกิจการบินนั้นหยุดชะงักตัวลง แต่นี่ยังรวมถึงความกังวลและความไม่พร้อมของผู้ใช้บริการจำนวนมากต่อการบินและการท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดยังคงดำเนินต่อไปอยู่นี้ และจากการคาดการณ์ของหลากหลายผู้เชี่ยวชาญนั้นก็ได้เผยว่าธุรกิจการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นกลุ่มธุรกิจสุดท้ายเช่นเดียวกัน ดังนั้นผลกระทบต่อสถานการณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นอาจจะไม่ได้เกิดในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แต่ส่งผลในระยะยาว ที่เมื่อผู้คนนั้นกลับมามีความมั่นใจและเชื่อมั่นในการบินและการท่องเที่ยวเช่นเดิม
สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยังไม่มีท่าทีที่จะจบลงเร็ว ๆ นี้ ทางภาคอุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลกก็เริ่มจะแบกรับผลกระทบนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกัน จากความจำเป็นในการหยุดทำการบินชั่วคราว ทำให้หลายสายการบินเริ่มที่จะใช้มาตรการลดเงินเดือนพนักงานจนถึงปลดพนักงานออก บางสายการบินก็มีการคาดการณ์ว่าอาจจะไม่รอดภายใน 2 - 3 เดือนนี้ เนื่องจากรายได้ที่หดหายอย่างฉับพลัน
บริษัทผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลกอย่าง Boeing ได้เริ่มปลดพนักงานจำนวนเกือบ 13,000 คนในสหรัฐฯ หลังความต้องการเครื่องบินลดลงอย่างมาก ซึ่งพนักกลุ่มแรกจำนวน 6,770 คนจะถูกปลดภายในอาทิตย์นี้ และอีก 5,520 คนจะถูกปลดในอาทิตย์ต่อ ๆ ไป การปลดครั้งนี้มีเหตุมาจากกลุ่มลูกค้าของ Boeing นั้นได้รับผลกระทบของ COVID-19 โดยตรง ทำให้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 737 Max ได้ถูกยกเลิกกว่า 100 รายการ และการส่งมอบเครื่องบินอีกหลายรายการก็ถูกเลื่อนออกไป ทำให้ทางบริษัทนั้นขาดรายได้จำนวนมาก ซึ่งทาง Boeing ก็ได้วางแผนที่จะปลดพนักงานจำนวน 10% จากพนักงาน 160,000 คนทั่วโลก
สายการบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง American Airlines ก็ได้เริ่มวางแผนที่จะปลดพนักงานกว่า 30% การระบาดของ COVID-19 นั้นส่งผลให้บริษัทนั้นขาดรายได้ในรอบหลายปี จากจำนวนการบินที่ลดลงถึง 95% ในสหรัฐฯ โดยการปลดพนักงานจะเน้นไปที่พนักงานในฝั่งของภาคบริหารและฝ่ายสนับสนุน รวมทั้งหมด 5,000 คน โดยจะทำการตกลงกับพนักงานและมอบข้อเสนอให้เป็นการทดแทนการปลดพนักงานในครั้งนี้ ทาง American Airlines นั้นมีพนักงานทั้งหมด 130,000 คนทั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีพนักงานจำนวน 39,000 คนได้ทำการสมัครใจลาออกและทำการปลดเกษียรอายุก่อนเวลาแล้ว
ก่อนหน้านี้ทางสายการบิน Emirates ก็ได้มีข่าวออกมาว่าจะปลดพนักงานกว่า 30,000 คน ซึ่งคิดเป็น 30% ของพนักงานทั้ง เพื่อที่จะลดต้นทุนในช่วงการระบาดของ COVID-19 ซึ่งทางสายการบินได้ออกมาโต้ว่าทางบริษัทนั้นกำลังทำการทบทวน พิจารณา และตรวจสอบในเรื่องของต้นทุนและการจัดการทรัพยาการอยู่
เช่นเดียวกันกับทาง British Airways ที่เมื่อปลายเดือนเมษายนได้เริ่มมีการพิจารณาปลดพนักงานกว่า 12,000 คน จากแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทแม่อย่าง AIG ซึ่งทางบริษัทได้คาดการณ์ว่าจะใช้แผนนี้จนกว่าจำนวนการบินนั้นเพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนการบินในปี 2019 และจากการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นแคนาดา Air Canada สายการบินแห่งชาติได้มีการพิจารณาปลดพนักงานจำนวน 20,000 คนหรือครึ่งหนึ่งของจำนวนพนักงานทั้งหมด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนเป็นต้นไป และยังได้มีการคาดการณ์อีกว่าการระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบเช่นนี้ยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งทางนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดาก็ได้เริ่มหารือถึงวิธีการช่วยเหลือสายการบินบ้างแล้ว
ซึ่งนอกจากนี้ยังมีสายการบินจำนวนมากกำลังพิจารณาลดต้นทุนต่าง ๆ จากจำนวนการบินระหว่างประเทศและภายในประเทศที่ลดลงอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้สายการบินทั่วโลกนั้นต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลพ่วงกับรายได้ที่ลดน้อยลงอย่างมาก ธุรกิจสายการบินในช่วงเวลานี้ก็ดูเหมือนจะไม่กลับมาง่าย ๆ จากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่ลดน้อยลง ซึ่งทำให้บางสายการบินอาจจะหมดเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตามแต่ เราก็ยังคงต้องจับตาดูว่าในอนาคตทางธุรกิจสายการบินจะมีการปรับตัวอย่างไร และจะทำอย่างไรเพื่อที่จะสามารถกลับมาสร้างความเชื่อมั่นในการบินอีกครั้งเมื่อการระบาดของ COVID-19 นั้นจบลง
อ้างอิง: TheGuardian, CNBC, Reuters, BBC, Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด