SoftBank Group Corp บริษัทที่ทรานฟอร์มตัวเองนอกเหนือจากธุรกิจสายโทรคมนาคม สู่นักลงทุนรายใหญ่ ที่ลงทุนในธุรกิจสาย Technology มากมาย ทั่วโลก อาทิ Boston Dynamic (บริษัทหุ่นยนต์ชื่อดังในสหรัฐฯ), Alibaba, Yahoo Japan, Uber, Didi, Grab, Renren, Inmobi, WeWork, Slack, Cruise Automation, Tokopedia และอื่นๆ อีกมากมาย

ล่าสุด SoftBank Ventures Asia หนึ่งในกองทุนในเครือ SoftBank Group Corp นำโดย JP Lee CEO ประกาศออกมาแล้วว่าจะลงทุนใน Early Stage Startup โดยจะเปิดกองทุนใหญ่นี้ด้วยมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน 2019 ที่จะถึงนี้ และมีแผนจ้างผู้ดูแลกองทุนในสิงคโปร์ และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งปัจจุบันมีทีมงานอยู่ที่ โซล ปักกิ่ง ซานฟรานซิสโก และ เทลอาวีฟ

JP Lee, CEO and Managing Partner แห่ง SoftBank Ventures Asia ภาพโดย REUTERS/Kim Hong-Ji

สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองนี้ประกอบด้วย SoftBank, South Korea’s National Pension Service บริษัทด้าน asset management firm โดย JP Lee ปฏิเสธที่จะเผยรายชื่อของนักลงทุนรายอื่นๆ

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมทาง SoftBank ถึงตัดสินใจกระโดดลงมาลงทุนในกลุ่ม Early Stage Startup มากขึ้น นั่นก็เพราะพวกเขามีความเชื่อเช่นเดียวกับ Jack Ma ที่ว่า “small guys become big guys” อย่างกรณีการลงทุนใน Alibaba ที่ปัจจุบันหุ้นที่ SoftBank ถืออยู่นั้นมีมูลค่าสูงถึง 130 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว

SoftBank เริ่มธุรกิจหน่วยลงทุนเมื่อปี 2000 เป็นช่วงที่ Startup เกาหลีใต้กำลังบูมเป็นอย่างมาก และขยายไปลงทุนในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งปัจจุบันลงทุนไปแล้วกว่า 250 บริษัทใน 10 ประเทศ และในขณะนี้เน้นโฟกัสด้าน AI, connected devices และ robotics นอกจากนี้บริษัทยังสนับสนุนให้บริษัทใน portfolio ได้จับมือกันในเชิงกลยุทธ์ เพื่อพากันเติบโต อย่าง บริษัท Carro ด้าน car trading platform ในสิงคโปร์ ซึ่งมี SoftBank Ventures Asia เข้าไปถือหุ้นอยู่นั้น ก็ได้พาไปพาร์ทเนอร์กับ Portfolio ของทาง SoftBank หลักอย่าง Grab เพื่อให้เกิดความร่วมมือกัน หรืออย่าง Snow app ของจีนก็ให้ใช้เทคโนโลยีด้าน AI ของ SenseTime เป็นต้น คงต้องติดตามกันต่อว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ได้รับเงินลงทุนจาก SoftBank ไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น สำหรับพี่ไทยเราจะมี Startup รายไหนเข้าตาพวกเขากันบ้างไหมนะ...

ที่มา: Reuters