'ศุภลักษณ์ อัมพุช' แม่ทัพใหญ่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตอบจดหมายนายกฯ เสนอ 10 แผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟูประเทศไทย | Techsauce

'ศุภลักษณ์ อัมพุช' แม่ทัพใหญ่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตอบจดหมายนายกฯ เสนอ 10 แผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟูประเทศไทย

คุณศุภลักษณ์   อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป 1 ใน 20 มหาเศรษฐีไทยที่ได้รับจดหมายเปิดผนึกจากทางนายกรัฐมนตรีในการขอความร่วมมือระดับชาติ เพื่อเอาชนะ COVID-19 ไปด้วยกันทั้งประเทศ ได้ตอบจดหมายกลับไป พร้อมเสนอแนวทางฟื้นฟูประเทศ

"ดิฉันในนามบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป และในฐานะประชาชนคนไทย ใคร่ขอขอบพระคุณ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี รัฐบาลไทย และหน่วยงานทางราชการทุกท่านที่ได้ดำเนินมาตรการ การป้องกัน  การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างดียิ่ง   ด้วยการตัดสินใจที่กล้าหาญ และการเสียสละ การร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทั้งประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  บุคลากรทางการแพทย์  และพยาบาลที่เปี่ยมด้วยความสามารถ ความทุ่มเท ความเสียสละอย่างสุดกำลัง  จนทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 นี้ได้      จนได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศทั่วโลก   ในฐานะเป็นประเทศที่มีมาตรฐานสาธารณสุขที่ดีเยี่ยมที่สุดของโลก  นำมาซึ่งความปลื้มปีติของคนไทยทั้งประเทศ   ดิฉันในนามบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป   มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี   ให้เป็นหนึ่งในตัวแทนภาคเอกชนในการนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือประชาชนชาวไทย ที่เดือดร้อน   และใคร่ขอเสนอแผนการฟื้นฟู  และพัฒนาเศรษฐกิจ  และสังคมของประเทศ        ให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ ให้มีความเข้มแข็ง และก้าวหน้าอย่างยั่งยืน" 

โครงการที่ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว                     

  • โครงการสนับสนุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เครื่องอุปโภค -บริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ และอาหาร รวมมูลค่ากว่า 30  ล้านบาท             
  • โครงการเดอะมอลล์ กรุ๊ป - รพ.ราชวิถี รวมใจเพื่อคนไทย ปลอดโควิด-19  เพื่อระดมการบริจาคจากพันธมิตรธุรกิจ  ลูกค้า และประชาชนทั่วไป  เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์
  • โครงการมอบเงินสนับสนุน ผ่านฯพณฯ นายกรัฐมนตรี แก่ 5 โรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลศิริราช  โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์   โรงพยาบาลรามาธิบดี   โรงพยาบาลราชวิถี  และสถาบันบำราศนราดูร
  • โครงการมอบอาหารกล่องจากครัวน้ำใจ โดยกูร์เม่ต์มาร์เก็ต ของเดอะมอลล์ทุกสาขา ให้แก่ โรงพยาบาล จำนวนรวม 30,000 กล่อง เป็นเวลา 30 วัน 
  • โครงการถุงยังชีพชุดกำลังใจ อันประกอบด้วยสินค้าอุปโภค-บริโภค แก่โรงพยาบาล จำนวนรวม 10,000 ชุด
  • โครงการความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจร้านอาหารกว่า 30 ร้าน  มอบอาหารกล่องจำนวน  5,000  กล่อง  เพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์
  • โครงการเดอะมอลล์  บ้านของคนโคราช เพื่อต่อลมหายใจ ด้วยการระดมการบริจาคเพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจแก่ 3  โรงพยาบาลในจังหวัดนครราชสีมา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา   โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา  และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี   
  • โครงการบริจาคโลหิตเพื่อศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ  สภากาชาดไทย  เพื่อร่วมบรรเทาการขาดแคลนโลหิตสำรอง  ผ่านห้องรับบริจาคโลหิตที่เดอะมอลล์ทุกสาขา จำนวนเบื้องต้นรวมกว่า 2,000,000 CC  จากผู้มีจิตศรัทธากว่า 5,000 คน  ในระยะเวลา 30 วัน 
  •  โครงการลดค่าครองชีพ และมอบถุงยังชีพชุดกำลังใจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน และสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงพาณิชย์  
  • โครงการ “พาณิชย์ลดราคาข้าว ช่วยประชาชน” ร่วมลดราคาข้าว สูงสุด  50%
  • โครงการ “พาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน” ร่วมปรับลดราคาสินค้าอุปโภค บริโภคที่มีความจำเป็นในการดำรงชีพใน 6 กลุ่มสินค้า สูงสุด 50%  จำนวนกว่า 3,000 รายการ  นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนเพิ่มเติมด้วยการจัดรายการลดราคาสินค้า ในราคาพิเศษสุด รวมกว่า 100,000 รายการ ตลอดปี 2563 
  • โครงการมอบถุงยังชีพชุดกำลังใจเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร  จำนวน  5,000 ชุด
  • โครงการรับผิดชอบต่อองค์กรและสังคม ด้วยมาตรการช่วยเหลือพนักงานในเครือกว่า 20,000 ราย โดยไม่มีนโยบายเลิกจ้าง และช่วยเหลือพนักงานที่มีภาระครอบครัว ให้การกู้ยืมเงินโดยไม่มีอัตราดอกเบี้ย         และดูแลช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล
  • โครงการช่วยเหลือผู้เช่า และผู้ประกอบการร้านค้าของทุกศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าทุกสาขาในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยมีมาตรการไม่เก็บค่าเช่าในช่วงปิดบริการ และมีมาตรการลดค่าเช่าหลังเปิดบริการ เพื่อช่วยเหลือผู้เช่า และผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 10,000 ราย 
  • โครงการช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ภาคการประมง ภาคธุรกิจแปรรูป  และ SME ทั่วประเทศ
  • บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป มีความห่วงใยในการระบายสินค้าต่าง ๆ เพื่อทั้งการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก ได้มีบทบาทการเป็นแกนกลางในการผนึกความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจรีเทลทั่วประเทศ ผ่านสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมศูนย์การค้าไทย ในการเปิดพื้นที่เป็นช่องทางการจำหน่ายเพื่อระบายสินค้าภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป ภาควิสาหกิจชุมชน OTOP ตลอดจน SME ตลอดทั้งปี โดยบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป  ได้นำร่องด้วยโครงการตลาด      เดอะมอลล์รวมใจ THE MALL TOGETHER MARKET ทุกสาขา โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ศกนี้เป็นต้นไป

ข้อเสนอของทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในการฟื้นฟูประเทศไทยหลัง COVID-19

การเดินหน้าประเทศไทยภายหลังวิกฤติโควิด -19  เป็นวาระแห่งชาติที่มีความสำคัญยิ่ง  มิได้เป็นเพียงความท้าทายของรัฐบาลเท่านั้น  หากแต่จะเป็นอีกความท้าทาย  และบทพิสูจน์ในพลังแห่งความร่วมมือของคนไทยทุกคน ที่จะร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพราะโลกภายใต้บรรทัดฐานใหม่ NEW NORMAL ที่เกิดขึ้นในภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างรุนแรงต่อมวลมนุษยชาติภายหลังวิกฤติโควิด -19  

สำหรับประเทศไทยนั้น   ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ  อันเป็นผลจากปัจจัยทั้งภายนอกและภายในประเทศ  อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ GDP มีเกณฑ์ที่ตกต่ำลงอย่างมาก ความไม่แน่นอนของทิศทางมาตรการกีดกันทางการค้า การแข็งค่าของค่าเงินบาท ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกมีข้อจำกัดจากการขยายตัว  ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและผลกระทบจาก World Disruption  จากเทคโนโลยี  และที่สำคัญยิ่ง   การซ้ำเติมของการแพร่ระบาดของโควิด-19   นับเป็น วิกฤตการณ์ร้ายแรงต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

จากวิกฤตการณ์โควิด-19  ที่เกิดขึ้น  ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งทางด้านมนุษยชาติ (Humanity)และผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ (Global Economic Recession) ประเทศต่าง ๆ ทุกประเทศ ทั้งใน เอเชีย ยุโรป อเมริกา และทุกภูมิภาคทั่วโลกจะต้องดำเนินการเยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม  ปัญหาที่ตามมาจะทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรง   กำลังการใช้จ่าย Spending Power  ของทุกประเทศ จะลดลง   เงินทุนและกองทุนสำรองของแต่ละประเทศจะลดลง  คนจะตกงานมากขึ้นทั่วโลก  โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ 

สิ่งที่เดอะมอลล์ กรุ๊ปใคร่ขอนำเสนอ  คงไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงิน  แต่เป็นวิสัยทัศน์ และแนวกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการฟื้นฟู  และพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยที่ทั้งทางภาคเอกชน ทุกภาคส่วน  และภาครัฐบาลทุกหน่วยงานจะต้องมุ่งมั่น  และมีเป้าหมายร่วมกัน  ต้องฟันฝ่าอุปสรรค  และนำพาประเทศไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ 

ด้วยยุทธศาสตร์ของการสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย การสร้างงานสร้างอาชีพ การสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศไทยภายใต้บรรทัดฐานใหม่ New Normal สำหรับคนทุกภาคส่วน ตั้งแต่ แรงงานขั้นพื้นฐาน เกษตรกร  SME  Entrepreneur   White Collar  เจ้าของธุรกิจ  จนถึงองค์กรขนาดใหญ่  ภายใต้กลยุทธ์ที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องให้ความสำคัญ คือ 3 หัวข้อหลัก 

  1. Globalization   ทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของ South East Asia 
  2. Digitalization   การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สำหรับ New Normal ทั้งในแง่การทำธุรกิจ และการ   ใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่ 
  3. Tourism  เป็น Spearhead  หัวหอกหลักที่จะนำประเทศไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด   และมีผลต่อเนื่อง Value Chain ไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย    และเป็นส่วนที่ประเทศไทยสามารถใช้เป็นจุดแข็ง  ในฐานะที่ประเทศไทยเป็น Tourist Destination of the World  โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่เป็น   World Number 1 Tourist Destination ติดต่อกันถึง 4 ปี อีกทั้งภูเก็ตและพัทยาติดอันดับ Top 10 Tourist Destination in Asia

10 แผนแม่บท  10 แผนยุทธศาสตร์ ฟื้นฟูประเทศ

เดอะมอลล์กรุ๊ป  ใคร่ขอเสนอ 10 แผนแม่บท  10 แผนยุทธศาสตร์ที่จะขอให้ทั้งทางภาครัฐบาลและภาค    เอกชนร่วมมือกัน   มี Commitment ร่วมกัน   เพื่อยังผลให้โครงการเหล่านี้ประสบความสำเร็จยิ่ง 

1. THAILAND AS A WORLD CLASS SHOPPING PARADISE ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งระดับโลก        

2. THAILAND AS A WORLD FOOD DESTINATION ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมอาหารของโลก

3. THAILAND AS A HUB OF WORLD CLASS ENTERTAINMENT AND ATTRACTIONS IN SEA ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

4. THAILAND AS A HUB OF MICE MARKET IN SEA ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประชุมสัมมนาและจัดแสดงสินค้าระดับโลกในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ 

5. THAILAND AS A CULTURAL AND ART CENTER OF ASIA ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่ง ศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย 

6. THAILAND AS A WORLD CLASS CENTER OF FESTIVAL, LEISURE & FUN ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดเทศกาลแห่งความสุขและสนุกสนานระดับโลก 

7. THE GULF OF THAILAND AND THE ANDAMAN SEA TO BECOME THE RIVIERA OF THE EAST AND CRUISE LINE PLAYGROUND อ่าวไทยและคาบสมุทรอันดามัน เสมือนเป็นริเวียร่าแห่งโลกตะวันออกและเส้นทางเดินเรือสำราญที่สำคัญของเอเชีย

8. THAILAND AS A MEDICAL HUB FOR HEALTH, WELLNESS & SPA RESORT IN ASIA ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ สุขภาพ ความงาม และสปา ในภูมิภาคเอเชีย

9. THAILAND AS THE ENTREPRENEUR, SME & STARTUP HUB OF SEA FOR O2O SEAMLESS EXPERIENCE   ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับ ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และ สตาร์ทอัพ

10. THAILAND AS A CENTER OF ECOTOURISM AND ENVIRONMENTAL SUSTAINABILITY ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 

ท้ายนี้  ดิฉันในนามบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างจริงใจและจริงจัง  ภายใต้กลยุทธ์และแผนยุทธศาสตร์ทั้ง 10 ข้อนี้  จะทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จ   นำมาซึ่งการสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มให้กับประชาชนหลายล้านคน  คาดว่าจะสร้างรายได้และทำรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ประเทศกว่า 100,000 ล้านบาท   ยังผลให้ประเทศไทยฟื้นฟูและยืนหยัดด้วยความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน  




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ประกวดนางงาม Miss AI ครั้งแรกของโลก ที่ส่วนใหญ่สร้างตาม Beauty Standard

ตอนนี้มี Miss AI หรือนางงามปัญญาประดิษฐ์ที่จะมาประชันความงามกันบนโลกดิจิทัลแล้ว ด้านผู้จัดการประกวดหวังช่วยผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี...

Responsive image

ไม่ยอมขายแอป ก็โดนแบน สหรัฐฯ จ่อแบน TikTok หวั่นเป็นภัยความมั่นคงชาติ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายแบน TikTok แล้ว บังคับบริษัทแม่ ByteDance ต้องขายแอปภายใน 1 ปี มิฉะนั้นจะถูกแบนในสหรัฐฯ ด้านซีอีโอ TikTok ประกาศกร้าว พร้อมท้าทายกฎหมาย ไม่ไปไหนทั้งนั้น...

Responsive image

KBank ผนึก J.P. Morgan เปิดโปรเจกต์ Carina ใช้บล็อกเชน ลดเวลาทำธุรกรรมจาก 72 ชั่วโมงเหลือ 5 นาที

Kbank ร่วมกับ J.P. Morgan Chase Bank เปิดตัวโปรเจคต์นวัตกรรมคารินา (Carina) ลดระยะเวลาการทำธุรกรรม จากที่ใช้เวลา 72 ชั่วโมงเหลือเพียงแค่ 5 นาที...