นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี่ เอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด(SuperRich SPR) ผู้ดำเนินธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐส่งเสริมทางด้านการท่องเที่ยวไทย ทำให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีอัตราการเติบโต เช่นเดียวกับการเติบโตจากการแลกเงินของคนไทยที่นิยมเดินทางไปต่างประเทศเช่นกัน ดังนั้น SuperRich SPR ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจึงได้มีการพัฒนาและปรับตัวตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยการเพิ่มการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ รวมถึง Innovation ที่จะเข้ามามีบทบาทในสังคมยุคดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ด้วยการเปิดให้บริการรับชำระเงินจากการซื้อเงินตราต่างประเทศด้วยการสแกน QR code เพื่อลูกค้าคนไทยได้ใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ อีกทั้ง ยังตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) อีกด้วย
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยสามารถใช้จ่ายได้ อย่างง่ายดาย ด้วยการร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำจัดทำบัตร SuperRich Card บัตรที่ลูกค้าชาวต่างชาติสามารถแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลเงินต่างประเทศเป็นเงินบาทไทยและใช้จ่ายโดยไม่ต้องพกเงินสด พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับจากร้านค้า และสถานที่ต่างๆ เพียงเข้าไปที่สาขา SuperRichSPR ที่มีอยู่ทั่วประเทศเพื่อดำเนินการใส่สกุลเงินไทยเข้าไปในบัตร จากนั้นผู้ถือบัตรสามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าได้ทันที อย่างไรก็ตาม บัตร SuperRich Card ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯยังจัดให้มีการจองเงินสกุลต่างประเทศแบบออนไลน์ (E-Booking) ผ่านทางเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชั่น เพื่อให้ลูกค้าได้รับอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด ก่อนเดินทางไปรับเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนที่แลกในขณะนั้นที่ SuperRich SPR สาขาในกรุงเทพฯที่ลูกค้าสะดวกจำนวน 44 สาขา
นายปิยะ กล่าวว่าเพื่อให้บริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ล่าสุดบริษัทได้ทำการเปิดสาขาใหม่ SuperRich SPR สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 4 โซนอิเซตัน เป็นสาขาในประเทศสาขาที่ 51 เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อรองรับการแลกเงินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ โดยมองว่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของกรุงเทพมหานครที่มีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งสาขาที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการแลกเงินและจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเหมือนเช่นที่ผ่านมา นอกเหนือจากสาขาใกล้เคียงที่สำนักงานใหญ่ฝั่งตรงข้ามที่มี 3 สาขา และสาขาอื่นๆที่ให้บริการอยู่ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 49 สาขา และสาขาในต่างประเทศ 2 สาขา ได้แก่ ประเทศกัมพูชา และประเทศอังกฤษ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด