
วงการเทคโนโลยีร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อบริษัทใหญ่ ๆ ทยอยปลดพนักงานกันอย่างต่อเนื่อง บางบริษัทปลดแล้วในเดือนก่อน ยังปลดซ้ำอีกรอบในเดือนนี้
Microsoft น่าจะเป็นบริษัทที่หนักสุดในเดือนนี้ เพราะเพิ่งปลดพนักงานไปเกือบ 6,000 คนเมื่อเดือนพฤษภาคม คิดเป็นประมาณ 3% ของพนักงานทั่วโลก และยังปลดอีกรอบในต้นเดือนมิถุนายน จำนวน 305 คน
ล่าสุด Bloomberg รายงานว่า Microsoft กำลังจะโดนปลดเพิ่มอีก โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงสิ้นเดือน (30 มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณของบริษัท รายละเอียดจำนวนคนยังไม่เปิดเผย แต่มีแนวโน้มว่า “ปลดเยอะ” ซึ่งอาจรวมไปถึงภาคส่วนอื่น ๆ ของ Microsoft ด้วย
ZoomInfo ธุรกิจในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริการข้อมูล ประกาศปลดพนักงาน 150 คนในเดือนนี้ คิดเป็นประมาณ 4% ของพนักงาน 3,500 คน เพื่อให้บริษัทสามารถโฟกัสกับธุรกิจหลัก และปรับกระบวนการตัดสินใจให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น CEO Henry Schuck กล่าวว่านี่เป็น “การตัดสินใจที่ยาก แต่จำเป็น” เพื่อรองรับทิศทางการเติบโตในระยะยาว
แม้เรื่องนี้จะเกิดขึ้นช่วงเดือนเมษายน แต่การลดทีมงานของ Google TV ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนแนวโน้มการปรับโครงสร้างในบริษัทเทคขนาดใหญ่ Google ลดขนาดทีม Google TV ลงถึง 25% (ประมาณ 75 คน จากทีมเดิม 300 คน) หลังจากถูกตัดงบประมาณไป 10%
มีรายงานชี้ว่า ที่จริงแล้ว Google อาจกำลังโฟกัสไปที่ YouTube มากขึ้น โดยตั้งใจยกระดับให้ใกล้เคียงNetflix หรือ Disney+ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังการลดขนาดทีม Google TV ลง
แม้ว่า Disney จะไม่ได้เป็นบริษัทเทคโนโลยีโดยตรง แต่ในรอบนี้ก็มีการปรับลดพนักงานในทีม “Product & Tech” ซึ่งเป็นฝ่ายที่ดูแลระบบหลังบ้านของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ เช่น Disney+, Hulu และ ESPN (ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้) โดยรายงานระบุว่ามีการลดจำนวนพนักงานไม่เกิน 2% ของทีมทั้งหมด
การปรับลดครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และเตรียมความพร้อมสำหรับโครงการใหม่ ๆ ที่จะเริ่มในช่วงครึ่งปีหลัง
Bumble แอปหาคู่ชื่อดัง ประกาศปลดพนักงานประมาณ 240 คน คิดเป็น 30% ของบริษัท เพื่อประหยัดงบประมาณราว 40 ล้านดอลลาร์ต่อปี ถือเป็นการรีเซ็ตองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดบริษัทมา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Layoffs.fyi ระบุว่าแค่ครึ่งแรกของปี 2025 ก็มีบริษัทเทคมากถึง 147 แห่ง ปลดพนักงานรวมกันแล้วกว่า 63,443 คน ถ้าครึ่งหลังของปีแนวโน้มยังคงเหมือนเดิม ตัวเลขสุดท้ายอาจแตะ 127,000 คน ซึ่งก็ยังน้อยกว่าปี 2024 ที่มีคนถูกปลดถึง 152,922 คน และน้อยกว่าปี 2023 ที่สูงสุดถึง 264,220 คน
แน่นอนว่าการปลดพนักงานไม่ใช่แค่เรื่องเศร้า แต่มันคือสัญญาณว่าโลกเทคโนโลยีกำลังหมุนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ บริษัทต้องปรับตัว คนทำงานก็ต้องปรับด้วย หลายบริษัทเริ่มหันไปโฟกัสกับเทคโนโลยีที่สร้างรายได้หรือผลลัพธ์ได้ทันที เช่น AI, คลาวด์ หรือบริการสตรีมมิ่ง เพราะช่วยลดต้นทุนและตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ชัดเจน ใครที่อยู่ในสายนี้ อาจต้องเริ่มมองหาโอกาสใหม่ ๆ หัดใช้เครื่องมือใหม่ ๆ และเสริมทักษะในสิ่งที่ตลาดต้องการ เพราะการยืนอยู่เฉย ๆ อาจจะไม่พออีกต่อไปแล้ว
อ้างอิง: fastcompany
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด