ทุเรียน 80,000 ลูก คือโอกาสการเติบโตของสินค้าเกษตรไทย ผ่านแพลตฟอร์มของ Alibaba | Techsauce

ทุเรียน 80,000 ลูก คือโอกาสการเติบโตของสินค้าเกษตรไทย ผ่านแพลตฟอร์มของ Alibaba

จากความสำเร็จจากยอดจองทุเรียนไทยผ่าน Tmall ด้วยยอดจองทุเรียนรวมถึง 130,000 ลูก ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นยอดจองทุเรียนหมอนทองจากช่วงเวลาหนึ่งนาทีแรกของการเปิดจองถึง 80,000 ลูก เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสการเติบโต ของสินค้าไทยบนแพลตฟอร์มของ Alibaba

 

ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยแรงสนับสนุนจากทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ และธุรกิจไทยผู้จัดหาทุเรียนคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดเลือกโดย DITP  โดยความร่วมมือกับ Alibaba Group ในโอกาสนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงตลาดผู้บริโภคจีนที่มีขนาดใหญ่และมีความต้องการสินค้านำเข้าคุณภาพสูงหลากหลายประเภทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คุณจรินทร์ ศิริการ เจ้าของศูนย์กลางรับซื้อผลไม้ ซูเปอร์ฟรุต ไทยแลนด์ กล่าวว่า “เรามีการคัดเกรดทุเรียนก่อนที่จะส่งออก โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสีของเปลือก น้ำหนักที่เหมาะสม และระดับความสุก เราจะเลือกตัดทุเรียนที่สุกราว 70-80% เพื่อให้ทุเรียนสุกพร้อมรับประทานพอดีเมื่อส่งถึงประเทศจีน”

“กระบวนการการคัดเลือกทุเรียนคุณภาพสูงนั้น ต้องมีบุคลากรที่มีทักษะและประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในแต่ละขั้นตอน นับตั้งแต่การบำรุงดินไปจนถึงการตัดแต่งกิ่ง การคัดผลก่อนตัด และการขนส่ง ความต้องการสินค้าที่มากขึ้นจากตลาดจีนจะส่งผลดีกับธุรกิจของเราในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นหรือโอกาสการทำงานที่เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับแรงงานในพื้นที่ เพื่อให้เรารับมือกับการเติบโตของตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” คุณจรินทร์ กล่าวเสริม

คุณบุญเรือง ประทุม เจ้าของสวนทุเรียนในตำบลเขาสระบาป อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี กล่าวเสริมอีกว่า “การปลูกทุเรียนให้ได้คุณภาพดีนั้น ต้องเริ่มจากการดูแลบำรุงดิน การให้ปุ๋ย การตัดดอก การคัดลูกติดต้น การแต่งกิ่ง และรอให้ทุเรียนแก่จัดพร้อมตัดจากต้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาราว 120 วัน”

“ความร่วมมือกับอาลีบาบา ซึ่งครอบคลุมถึงการเปิดตัวร้าน Flagship Store สำหรับผลิตภัณฑ์ข้าวไทยด้วยนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยสามารถนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาดจีนได้โดยมีการลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

“ทุเรียนไทยถือเป็นสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียมที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลก และความร่วมมือนี้จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มมูลค่าของทุเรียนและสินค้าเกษตรอื่นๆ จากประเทศไทยบนเวทีโลก ซึ่งจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับเกษตรกรและธุรกิจไทย”

ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในครั้งนี้  Alibaba จะร่วมส่งเสริมการขายทุเรียนมูลค่า 3 พันล้านหยวน (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) ภายในระยะเวลา 3 ปี เพิ่มเติมจากสินค้าส่งออกของไทยชนิดอื่น ๆ   การเปิดซื้อขายทุเรียนล่วงหน้ามีระยะเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 - 19 เมษายน เพื่อขายทุเรียนคุณภาพพรีเมี่ยมพันธุ์หมอนทองและพันธุ์พวงมณี ซึ่งเป็นทุเรียนที่มีชื่อเสียงของไทย  จากการทำงานร่วมกันของผู้ส่งออกที่มีคุณภาพระดับแถวหน้าที่แนะนำโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และไช่เหนี่ยวแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ของ Alibaba  ทำให้สามารถส่งทุเรียนจากแหล่งผลิตในประเทศไทยไปยังประเทศจีนได้ภายใน 120 ชั่วโมง และสามารถจัดส่งถึงมือลูกค้าทั่วประเทศจีนได้ภายใน 24 ชั่วโมง

หลังการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บน TMall.com เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา  การขายข้าวซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย จะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย ซึ่งระบบกระจายสินค้าของ TMall จะกระจายข้าวไปยังหลากหลายช่องทาง รวมถึงการขายผ่านตู้ขายข้าวอัตโนมัติที่ตั้งอยู่ตามร้านในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในเครือข่ายของ RT-Mart ในประเทศจีน  นอกจากนี้ Tmall ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริโภคที่จะช่วยให้ผู้ค้าได้พัฒนาข้าวให้ตรงกับความชอบของผู้บริโภคชาวจีน เพื่อสร้างความสำเร็จจากการขายข้าวบนแพลทฟอร์ม TMall ซึ่งเห็นได้จากยอดขายข้าวไทยที่เติบโตมากกว่า 2เท่า ในปี 2560

“โปรโมชั่นขายทุเรียนล่วงหน้า เป็นเพียงก้าวแรกตามความมุ่งมั่นของเราที่มีมาอย่างต่อเนื่องที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมเกษตรของประเทศไทย” นางสาวซู เฉีย ผู้อำนวยการอาวุโส TMall Fresh กล่าว “ในระยะแรกของความร่วมมือนี้ เราได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากกระทรวงพาณิชย์และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการแนะนำผู้จัดหาสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพให้นำผลผลิตเหล่านี้มาขายบนแพลตฟอร์มของเรา และเรามีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจในรูปแบบนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่ทุเรียนและข้าวเท่านั้น ยังรวมถึงสินค้าเกษตรอื่น ๆ อีกด้วย เพื่อสร้างโอกาสเติบโตและความสำเร็จให้กับพวกเขาผ่านแพลตฟอร์มของเรา”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...