
ภายในงาน 'Thailand Economic Outlook 2026: Out of the Trap' ดร. เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ฉายภาพความท้าทายของเศรษฐกิจไทยที่เปรียบเสมือน 'คนป่วย' ที่กำลังเดินเข้าห้อง ICU พร้อมกางพิมพ์เขียวของรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่มีภารกิจเร่งด่วนในการพาประเทศไทยให้หลุดพ้นจากกับดักที่ฉุดรั้งการเติบโตมานานหลายปี
ดร. เอกนิติ ย้ำว่าด้วยเวลาทำงานที่จำกัดเพียง 4 เดือนก่อนสิ้นปีงบประมาณ ทีมเศรษฐกิจจึงต้องทำงานภายใต้กรอบที่ชัดเจนคือ 'กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว' ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า 'Quick Win, Big Win' ซึ่งไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เป็นการวางรากฐานเพื่อการเติบโตในระยะยาวไปพร้อมกัน
ดร. เอกนิติ อธิบายว่าแนวคิด 'Quick Win, Big Win' คือการลงมือทำทันทีเพื่อฟื้นเศรษฐกิจที่กำลังติดหล่ม แต่ทุกนโยบายต้องมีมิติของ 'ผลลัพธ์ระยะยาว' และ 'การกระจายประโยชน์' แฝงอยู่เสมอ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือโครงการ 'คนละครึ่งพลัส' ที่ไม่ได้มุ่งแค่ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้รายย่อย แต่ยัง 'พลัส' ทักษะดิจิทัลเข้าไปด้วย
'คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลเยอะ แต่ส่วนใหญ่ใช้ไปกับโซเชียลมีเดีย เราจึงใส่หลักสูตรอบรมระยะสั้นเข้าไปในโครงการ เพื่อสอนทักษะการขายของออนไลน์ การทำบัญชี และการใช้ AI เพื่อให้พวกเขานำไปต่อยอดสร้างรายได้' นอกจากนี้ ยังสร้างแรงจูงใจให้คนเข้าระบบภาษี โดยผู้ที่อยู่ในระบบจะได้รับเงินสนับสนุนมากกว่า ซึ่งเป็นการขยายฐานภาษีเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
หัวใจสำคัญของปาฐกถาคือการวิเคราะห์ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ ดร. เอกนิติ เรียกว่า '4 กับดัก' ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ไทย จากที่เคยเป็น 'เสือ' กลายเป็น 'คนป่วย'
เพื่อปลดล็อกกับดักทั้ง 4 ข้อ รัฐบาลได้วางแนวทางที่ชัดเจนโดยมีเป้าหมายที่ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน
ดร. เอกนิติ ปิดท้ายว่า แม้จะมีเวลาเพียง 4 เดือน แต่รัฐบาลมีความชัดเจนที่จะใช้ช่วงเวลานี้ในการ 'จุดประกายแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์' เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นจากหล่ม พร้อมกับการวางรากฐานเพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้เกิดผลในระยะยาว บนพื้นฐานของการรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด