True Incube ยังคงเดินหน้าส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยอย่างต่อเนื่อง โดยความพิเศษในปีนี้คือการประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ใหญ่ได้แก่ แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป, หัวเว่ย เทคโนโลยี, เทค ซอส และการบินไทย เสริมความแข็งแกร่งโปรแกรมบ่มเพาะสตาร์ทอัพระดับภูมิภาค เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพ 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกรอบสุดท้ายในโครงการ True Incube Incubation & ScaleUp Program Batch 5 – Startup Grand Prix ได้เข้าร่วม Boot Camp ติวเข้มตลอด 3 เดือนเต็ม พร้อมทริปดูงานและโอกาสสร้างพันธมิตรด้านเทคโนโลยีใน 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน
พบกับ กูรูและผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ นักลงทุน และสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ และยังเป็นเวทีเฟ้นหาสุดยอดสตาร์ทอัพ ชิงรางวัลเงินทุนสูงถึง 2-4 ล้านบาท และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ Co-Working Space ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค, บริการคลาวด์เพื่อธุรกิจ พร้อมช่องทางโปรโมทธุรกิจผ่านกิจกรรมและสื่อสนับสนุน และโอกาสเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกที่ซิลิคอน วัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมมูลค่าทั้งโครงการกว่า 20 ล้านบาท
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ทรู อินคิวบ์ ผู้นำด้านสตาร์ทอัพครบวงจรในการให้บริการและส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก ภายใต้ 4 พันธกิจหลัก ทั้งการสร้างแรงบันดาลใจ, สร้างนวัตกรรม, บ่มเพาะธุรกิจ และการลงทุน ได้จัดโปรแกรมบ่มเพาะสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ซึ่งโครงการ True Incube Incubation & ScaleUp Program Batch 5 – Startup Grand Prix ในปีนี้ ทรู อินคิวบ์ มีความตั้งใจที่จะยกระดับโปรแกรม เพิ่มดีกรีความเข้มข้นในระดับภูมิภาค โดยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพันธมิตรชั้นนำระดับโลก พร้อมทั้งพันธมิตรบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและสตาร์ทอัพยูนิคอร์น (Unicorn) ระดับภูมิภาค ที่จะมาช่วยเติมเต็มหลักสูตรให้ครบเครื่องมากขึ้น ทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ และเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ
โดยสตาร์ทอัพทั้ง 5 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของโครงการ จะได้เข้าโปรแกรม Boot Camp และเดินทางไปดูงานด้านเทคโนโลยีใน 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่มีธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่ก้าวล้ำ จึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่สตาร์ทอัพไทยจะได้เรียนรู้ระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถขยายและปรับธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค ทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงสตาร์ทอัพต่างประเทศเข้ากับระบบนิเวศน์ของไทย เพิ่มโอกาสในการเปิดตลาดที่ใหญ่ขึ้น และปรับใช้โมเดลธุรกิจที่เหมาะสมกับตลาดในแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”
นอกจากนี้ยังได้ ดร.แอเดรียน แวนเซิล Country Head for GMS Thailand, Google Asia Pacific, Singapore ร่วมเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของหลักสูตรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านธุรกิจที่ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย
“สำหรับสตาร์ทอัพ 5 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในโครงการ True Incube Incubation & ScaleUp Program Batch 5 – Startup Grand Prix นอกจากจะได้เข้า Boot Camp และร่วมเดินทางไปดูงานด้านเทคโนโลยี ใน 4 ประเทศแล้ว สตาร์ทอัพทั้ง 5 ทีมที่มีผลงานและโมเดลธุรกิจโดดเด่นยังจะได้ชิงรางวัลเงินทุนสูงถึง 2-4 ล้านบาท พร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ Co-Working Space ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค, บริการคลาวด์เพื่อธุรกิจ และช่องทางโปรโมทธุรกิจผ่านกิจกรรมและสื่อสนับสนุน รวมทั้งโอกาสเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก ที่ซิลิคอน วัลเลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยผู้สนใจสามารถติดตามเส้นทางการก้าวสู่สตาร์ทอัพระดับภูมิภาคของเหล่าสตาร์ทอัพทั้ง 5 ทีม กับการเดินทางเยือน 4 ประเทศ ได้ที่ www.trueincube.com หรือ www.facebook.com/trueincube โดยมีกำหนดการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 23-25 กรกฎาคม, ประเทศเวียดนามวันที่ 14-16 สิงหาคม, ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 28–30 สิงหาคม และ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 4–7 กันยายน 2561” ดร.ธีระพล กล่าวสรุป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด