ทรูมันนี่ ผู้ให้บริการอีเพย์เมนต์ชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการปรับโฉมและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สำหรับแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท (TrueMoney Wallet) ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินสำหรับผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยนอกเหนือจากบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น การจ่ายบิล เติมเงินมือถือ โอนเงิน ชำระเงินทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ผู้ใช้บริการจะสามารถโอนเงินให้แก่ครอบครัวและเพื่อนๆ ที่อยู่ในต่างประเทศ ซื้อตั๋วเครื่องบินและจองห้องพัก สั่งอาหารและชำระเงิน กู้ยืมเงินและลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ รวมถึงกิจกรรมทางการเงินอื่นๆ ผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท ได้เร็วๆ นี้ โดยแอปพลิเคชันจะมีฟีเจอร์การจัดอันดับความน่าเชื่อถือและการป้องกันการฉ้อโกงอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความร่วมมือกับทาง Apple และ ANT Financial Services Group ลูกค้า ทรูมันนี่ สามารถใช้บัญชี ทรูมันนี่ ในการซื้อสินค้าผ่านทาง App Store, Apple Music และ iTunes ได้ง่ายๆ โดยลูกค้าทรูมันนี่ที่มี Apple ID อยู่แล้วหรือสมัคร Apple ID ใหม่ และเลือก 'TrueMoney' เป็นช่องทางการชำระเงิน จากการตั้งค่าบัญชีใน App Store, Apple Music และ iTunes บน iPhone, iPad, iPod touch และ Mac หรือจาก iTunes บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ช่องทางการชำระเงินใหม่นี้จะได้รับการตั้งค่าโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว บนอุปกรณ์ Apple ทุกชนิด ซึ่งรวมไปถึง iPhone, iPad, Apple Watch และ Apple TV ด้วย
การปรับโฉมใหม่ของแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยโดย นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเล็งเห็นว่า ทรูมันนี่ วอลเล็ท จะกลายเป็นซูเปอร์แอป (Super App) ที่เหมาะกับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
"เราเรียกสิ่งนี้ว่าวิวัฒนาการของ ซูเปอร์แอป เนื่องจากบริการต่างๆ ทั้งหมดนี้สามารถดำเนินการผ่าน ทรูมันนี่ วอลเล็ท และอีกหลากหลายบริการที่ถูกวางแผนไว้สำหรับระยะถัดไปในอนาคต สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ แอปพลิเคชันนี้จะตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินในชีวิตเรา” นายปุณณมาศกล่าว
โดยทรูมันนี่ วอลเล็ท ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับเซเว่น อีเลฟเว่น ทรู คอฟฟี่ รวมถึงร้านค้าปลีกและร้านอาหารชั้นนำมากมายซึ่งจะเปิดตัวในปลายปีนี้
เราเรียกสิ่งนี้ว่า 'FinLife' ชีวิตฟินๆ เพราะทรูมันนี่ วอลเล็ท สามารถตอบสนองทุกความต้องการของแต่ละบุคคลได้ในทุกรูปแบบ ตั้งแต่ความต้องการทางการเงินในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญมากขึ้น
นอกเหนือจากการให้บริการในประเทศไทย ทรูมันนี่ ยังขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค และมีการดำเนินงานอีก 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เมียนมา อินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เนื่องด้วยความต้องการบริการทางการเงินที่ทั่วถึง และความพร้อมของผู้บริโภคสำหรับการให้บริการดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน ทำให้เห็นโอกาสในการเติบโตอย่างชัดเจน
ด้วยการมุ่งเน้นในกลุ่มประชากรทั่วภูมิภาคที่ไม่มีบัญชีธนาคารมากกว่า 60% กลุ่มที่เข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างจำกัด และกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการเงิน ทรูมันนี่ ได้สร้างเครือข่ายที่มีตัวแทนมากกว่า 50,000 ราย ใน 6 ประเทศ ในส่วนของประเทศไทยนั้น ทรูมันนี่ มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) แก่ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่พร้อมจะปรับตัวเข้าสู่ไลฟ์สไตล์ทางการเงิน หรือ ‘FinLife’ ด้วยบริการทางการเงินที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยปลายนิ้วผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท
“ทรูมันนี่ วอลเล็ท เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นโดยคนไทยเพื่อคนไทยและทุกคนในภูมิภาคอาเซียน พันธกิจของพวกเราในแต่ละวันคือการหาวิธีกำจัดอุปสรรคต่างๆ ที่มีต่อการเข้าถึงธุรกรรมทางการเงิน เสริมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจ และสร้างความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนนับล้าน”
โดยนายปุณณมาศยังกล่าวด้วยว่า ภายในปี 2020 บริษัทตั้งเป้าที่จะให้บริการทรูมันนี่ วอลเล็ทแก่ 100 ล้านคนในอาเซียน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด