Uber ผู้ให้บริการ Ride-Hailing เบอร์ต้นของโลก ประกาศหยุดพัฒนา ‘รถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ’ เผยไม่กระทบธุรกิจเดิม พร้อมหันมาพัฒนารถยนต์นั่งขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มตัว และเริ่มทดสอบแล้วที่เมือง Pittsburgh ประเทศสหรัฐฯ
นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการ Ride-Hailing เบอร์ต้นของโลกแล้ว Uber ยังแผนก Uber Advance Technology Center ที่จัดตั้งเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ของตัวเองด้วย ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่พวกเขากำลังพัฒนาคือยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งล่าสุด Uber ได้ประกาศยุติการพัฒนาโครงการรถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สาเหตุที่ Uber ยุติโครงการดังกล่าวเนื่องมาจากการถูกฟ้องร้องโดย Waymo บริษัทด้านยานยนต์ในเครือ Alphabet ที่มี Google อยู่ร่วมชายคาด้วย อันเนื่องมาจากแอนโทนี่ เลวานดอฟสกี้ Founder ของ Otto Startup ที่พัฒนารถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ Uber ซื้อกิจการมาร่วมพัฒนาถูกกล่าวหาว่านำเทคโนโลยีของ Waymo ออกมาใช้ ซึ่งแอนโทนี่เคยเป็นวิศวกรให้กับ Waymo
อย่างไรก็ตาม การยุติโครงการนี้ไม่ได้กระทบกับธุรกิจของ Uber เพราะ Uber Freigth บริการเชื่อมผู้ขับรถบรรทุกกับบริษัทกระจายสินค้าที่นำร่องในอเมริกาเหนือ และยังคงดำเนินการอยู่ ส่วนการพัฒนายานยนต์อัตโนมัติยังคงดำเนินต่อไป โดยจะเน้นที่รถยนต์นั่งเต็มตัว
พร้อมกันนี้ Uber ได้นำยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติลงทดสอบในถนนจริงแล้วที่เมือง Pittsburgh รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐฯ โดยมีผู้ควบคุมนั่งไปด้วย เพื่อประเมินผลและดูแลความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุชนคนเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา
Eric Meyhofer หัวหน้าทีม Uber Advance Technology กล่าวยืนยันด้วยตัวเองว่า “เราได้ตัดสินใจยุติโครงการพัฒนารถบรรทุกขับเคลื่อนอัตโนมัติ และหันไปพัฒนารถยนต์นั่งขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มตัว พร้อมกับได้นำยานยนต์ของเราลงถนนทดสอบแล้วที่เมือง Pittsburgh ซึ่งเราเชื่อว่าความเชี่ยวชาญของทีมจะผลักดันให้เราเจอหนทางที่ดีต่อไปได้”
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Uber
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด