8 ล้านคนเสี่ยงตกงานเพราะ AI การบ้านใหญ่ของรัฐบาล UK | Techsauce

8 ล้านคนเสี่ยงตกงานเพราะ AI การบ้านใหญ่ของรัฐบาล UK

สถาบันวิจัยนโยบายสาธารณะหรือ IPPR ประกาศเตือน ชาวสหราชอาณาจักรกว่า 8 ล้านคนเสี่ยงตกงาน จากนโยบายด้าน AI ของรัฐบาล

คนสหราชอาณาจักรเสี่ยงตกงาน 8 ล้านคน เพราะ AI 

รัฐบาลสหราชอาณาจักรหันมาพึ่งพา AI มากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการผลิต อธิการบดีกระทรวงการคลัง ประกาศการลงทุนด้านเทคโนโลยี AI กว่า 800 ล้านปอนด์หรือราว 36 ล้านล้านบาท โดยหวังเพิ่มผลผลิตของภาครัฐ เช่นเดียวกันบริษัททั่วทุกอุตสาหกรรมต่างใช้เทคโนโลยีนี้เพิ่มประสิทธิภาพ 

แต่การใช้เทคโนโลยีนี้ โดยไม่มีนโยบายที่ดีมารองรับอาจทำให้คนตกงาน ตอนนี้ AI ส่งผลกระทบต่อแรงงานแล้ว 11% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเป็น 60% หากบริษัทหันมาใช้ AI มากขึ้น 

โดย IPPR คาดว่างานที่จะได้รับผลกระทบสูงสุดได้แก่ งานระดับเริ่มต้น งานพาร์ทไทม์ และงาน Back Office เช่น Customer Service แต่ตำแหน่งงานที่ได้ค่าตอบแทนสูงกว่านี้ก็ไม่รอด ได้รับผลกระทบมากขึ้นเช่นกัน 

จากรายงานสถาบันวิจัยนโยบายสาธารณะเผยแบบจำลองผลกระทบที่เป็นไปได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย AI ของสหราชอาณาจักรดังต่อไปนี้

  • กรณีที่ดีที่สุด: หากรัฐบาลเข้ามาจัดการนโยบาย AI อย่างเหมาะสม จะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 306 พันล้านปอนด์ต่อปีหรือราว 14 ล้านล้านบาท ให้กับเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยไม่ทำให้แรงงานต้องตกงาน และอาจจะทำให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นถึง 30%
  • กรณีที่แย่ที่สุด: หากรัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายแบบเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะนำไปสู่การสูญเสียงานกว่า 8 ล้านตำแหน่งโดยไม่เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจใดๆ เลย

สถาบันวิจัยนโยบายสาธารณะจึงเน้นย้ำว่า นโยบายของรัฐบาลจะเป็นตัวกำหนดว่าการนำ AI มาใช้จะส่งผลให้เกิดการตกงานหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่

การบ้านที่รัฐบาลต้องจัดการ

สถาบันวิจัยนโยบายสาธารณะแนะนำรัฐบาลให้เน้นการพัฒนากลยุทธ์ AI ในระดับอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเปลี่ยนงานและกระจายผลกำไรของการใช้งานระบบอัตโนมัติไม่ให้ถูกผูกขาดโดยไม่กี่บริษัท การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับ AI สร้างแรงจูงใจ หรือสิทธิพิเศษทางภาษี หรือเงินสนับสนุนให้บริษัทหันมาพัฒนาทักษะของพนักงาน แทนที่การใช้ AI มาทำงานแทน รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่ไวต่อระบบอัตโนมัติเช่น ธุรกิจเกษตรยั่งยืน 

โดยรวมแล้ว AI ถือเป็นดาบสองคมสำหรับแรงงานในสหราชอาณาจักร รัฐบาลและภาคธุรกิจถือเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็มีส่วนในการลดการสูญเสียตำแหน่งงานและรับประกันการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นสำหรับแรงงานทุกคน

อ้างอิง: bloomberg

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...