Waymo จับมือ Nihon Kotsu ดันแท็กซี่อัตโนมัติสู่ถนนโตเกียว เตรียมให้บริการปี 2025

ญี่ปุ่นกำลังจะมี Taxi ไร้คนขับให้บริการในปี 2025 ซึ่งเป็นโปรดักส์ของ Waymo บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับภายใต้ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ทาง TechCrunch รายงานว่า เตรียมเริ่มทดสอบรถแท็กซี่อัตโนมัติในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ช่วงต้นปี 2025 นับเป็นครั้งแรกที่รถแท็กซี่ไร้คนขับของบริษัทจะวิ่งบนถนนสาธารณะนอกสหรัฐอเมริกา

รู้จัก Wayno คืออะไร ?

Waymo คือบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) ซึ่งแยกตัวออกมาจากโครงการ Google Self-Driving Car ภายใต้บริษัทแม่ Alphabet Inc. 

โดย Waymo มุ่งเน้นการสร้างเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับที่สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาใช้กับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ทั้งในรูปแบบรถยนต์ส่วนตัวและบริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ไร้คนขับ โดยมีจุดเด่นอยู่ทั้งหมด 2 ข้อ

1. ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ขั้นสูง: Waymo ใช้เทคโนโลยี อาทิ

  • LiDAR (Light Detection and Ranging) ทำหน้าที่สร้างภาพ 3 มิติของสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ เซ็นเซอร์ LiDAR จะถูกติดตั้งไว้รอบตัวรถเพื่อปล่อยลำแสงเลเซอร์นับล้านในทุกทิศทาง และวัดระยะเวลาที่แสงสะท้อนกลับมาจากวัตถุต่างๆ
  • กล้องที่สามารถมองเห็นภาพรอบตัวรถแบบ 360° ได้พร้อมกัน กล้องเหล่านี้สามารถตรวจจับไฟจราจร เขตงานก่อสร้าง และวัตถุอื่นๆ ในพื้นที่
  • เรดาร์ใช้ความถี่คลื่นระดับมิลลิเมตร เพื่อให้ข้อมูลสำคัญแก่ Waymo Driver เช่น ระยะทางและความเร็วของวัตถุ เรดาร์มีประสิทธิภาพในการทำงานแม้ในสภาพฝน หมอก และหิมะ
  • คอมพิวเตอร์บนรถที่ประกอบด้วย CPU และ GPU ระดับเซิร์ฟเวอร์รุ่นล่าสุด ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์ต่างๆ บนรถ ระบุวัตถุที่อยู่รอบตัว เช่น รถคันอื่นหรือคนเดินถนน และวางแผนเส้นทางที่ปลอดภัยไปยังจุดหมายปลายทาง ทั้งหมดนี้ดำเนินการแบบเรียลไทม์คล้ายกับสมองของ Waymo

2. ใช้ซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ควบคุมรถสามารถเรียนรู้และตัดสินใจในสถานการณ์การจราจรที่ซับซ้อนได้ เช่น การจอดรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง การหลีกเลี่ยงคนเดินถนน และการตัดสินใจในสภาพการจราจรที่หนาแน่น

โครงการ “Road Trips” ของ Waymo พาแท็กซี่ไร้คนขับมาญี่ปุ่น

การขยายการทดสอบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Road Trips” ซึ่ง Waymo จะนำเทคโนโลยีไปทดสอบในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก โดยแต่ละเมืองมีความท้าทายที่แตกต่างกันไป สำหรับกรุงโตเกียว Waymo จะต้องเผชิญกับการขับรถแบบชิดซ้ายและสภาพแวดล้อมเมืองที่มีความแออัดสูง

ที่ผ่านมาโครงการ Road Trips เคยได้ทดสอบใน 12 เมืองของสหรัฐฯ เพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมแบบเฉพาะ เช่น การขับขี่ท่ามกลางฝนในไมอามี หรือสภาพอากาศร้อนจัดในหุบเขามรณะ (Death Valley) รัฐแคลิฟอร์เนีย 

นอกจากนี้บริษัทได้ทดสอบรถในเมืองอื่น ๆ เช่น บัฟฟาโล, วอชิงตัน ดี.ซี., ลาสเวกัส และซีแอตเทิล โดยกระบวนการจะเริ่มจากการนำรถจำนวนเล็กน้อยไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อให้มนุษย์ขับเก็บข้อมูลและทำแผนที่ก่อน จากนั้นจึงค่อยเริ่มทดสอบโหมดไร้คนขับ (แต่ก็ยังคงมีคนขับคอยควบคุมอยู่หลังพวงมาลัย)

สำหรับการทดสอบในญี่ปุ่นครั้งนี้ Waymo ได้ร่วมมือกับแอปเรียกแท็กซี่ GO และบริษัท Nihon Kotsu ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแท็กซี่รายใหญ่ โดย Nihon Kotsu จะรับหน้าที่ดูแลการจัดการและซ่อมบำรุงรถ Waymo

ในระยะแรก คนขับจาก Nihon Kotsu จะเริ่มขับรถ Waymo ด้วยตนเองก่อนเพื่อเก็บข้อมูลเส้นทางในพื้นที่สำคัญของกรุงโตเกียว เช่น เขตมินาโตะ, ชินจูกุ, ชิบูย่า, ชิโยดะ, ชูโอ, ชินากาว่า และโคโตะ และยังมีการฝึกอบรมทีมงาน Nihon Kotsu ให้เรียนรู้วิธีการควบคุมรถ Jaguar I-Pace ที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีไร้คนขับของบริษัทเอาไว้

อ้างอิง: techcrunch

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมสถานีชาร์จ EV ของ PEA บนเส้นทางหลักทั่วประเทศ

เทศกาลสงกรานต์มาถึงแล้ว หลายคนคงเตรียมออกเดินทางทั้งกลับบ้าน แต่สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจกังวลเรื่องจุดชาร์จระหว่างทาง Techsauce จึงรวบรวมจุดให้บริการสถานีชาร์จ EV ทั่วประเท...

Responsive image

วิจัยพบ AI ไม่ได้คิดอย่างที่พูด แม้จะโชว์วิธีคิดยาวเหยียด แต่ซ่อนความคิดที่แท้จริงไว้ไม่บอกใคร

ตอนนี้มี AI ประเภทใหม่ที่เรียกว่าโมเดลจำลองการให้เหตุผล (SR Model) ซึ่งถูกสร้างมาให้โชว์วิธีคิดทีละขั้นตอน เวลาเราถามคำถามยากๆ AI จะอธิบายออกมาเป็นขั้นเป็นตอนว่าคิดด้วยวิธีไหน ถึงไ...

Responsive image

เปิดตัว Llama 4 โมเดล AI ที่ฉลาดที่สุดของ Meta ทำอะไรได้บ้าง แต่ละโมเดลต่างกันอย่างไร ?

Meta ได้เปิด Llama 4 ซึ่งเป็น AI เวอร์ชันอัปเดตล่าสุดอย่างเป็นทางการ โดยครั้งนี้มีโมเดลใหม่ทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ Llama 4 Scout, Llama 4 Maverick และ Llama 4 Behemoth โดยทาง Meta เป...