เปิดมุมมองนักลงทุนระดับโลก กับก้าวสำคัญของไทย ในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอาเซียน

เมื่อประเทศไทยมีโอกาสที่จะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอาเซียนด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล และศักยภาพการลงทุนที่ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก ทาง True Digital Park และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงได้งาน Thailand Fast Track: Attracting Global Community, Accelerating Thailand's Growth ได้เปิดเวทีให้ผู้นำจากนานาชาติมาแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอนาคตทางเศรษฐกิจของไทย 

หนึ่งในเซสชันที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ "What's the Global View in Thailand – Shaping International Business in the Heart of ASEAN" โดยมีตัวแทนจาก 3 ประเทศ มาพูดคุยกันถึงโอกาสทางธุรกิจ ความท้าทาย และแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่

  • ญี่ปุ่น - Kajiwara Toru รัฐมนตรีและหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น
  • สหราชอาณาจักร - Zak Lawton เลขานุการเอกฝ่ายเทคโนโลยีและหัวหน้าฝ่ายการลงทุน สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร
  • ลักเซมเบิร์ก - Eric Lauer ที่ปรึกษาด้านการค้าและการลงทุน สถานเอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์ก

อะไรคือโอกาสทางธุรกิจของไทย ที่นักลงทุนต่างชาติสนใจ ?

การพูดคุยเริ่มต้นขึ้นด้วยการเน้นถึงโอกาสทางธุรกิจที่ไทยมีให้กับนักลงทุนระดับโลก ซึ่งแน่นอนว่าทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ เศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และการเงินยุคใหม่

Kajiwara Toru ตัวแทนของญี่ปุ่น มองว่าไทยเป็นฐานอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค มีบริษัทญี่ปุ่นกว่า 6,000 แห่งที่ดำเนินธุรกิจอยู่ที่นี่ และแนวโน้มยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้ไทยแตกต่างจากตลาดอื่นคือ แรงงานที่มีศักยภาพและโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมไฮเทค 

ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ระบบอัตโนมัติ (AI-driven Automation) หรือเซมิคอนดักเตอร์ ญี่ปุ่นไม่ได้มาเพียงเพื่อทำธุรกิจ แต่พวกเขาลงทุนใน บุคลากรและการศึกษา ผ่านสถาบันฝึกอบรมที่พัฒนาแรงงานรุ่นใหม่ให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมสมัยใหม่

Zak Lawton ตัวแทนจากสหราชอาณาจักร เน้นไปที่ศักยภาพด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยที่เติบโตถึง 25% ต่อปี และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ไทยกลายเป็น Tech Hub ของอาเซียน ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น อินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมและการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค ทำให้ไทยเป็นตลาดที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม AI, Cloud Computing และ Fintech

Eric Lauer ตัวแทนจากลักเซมเบิร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก เห็นว่าไทยสามารถก้าวขึ้นมาเป็น Financial Hub ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ด้วยศักยภาพของตลาดทุนและ Fintech ที่กำลังเติบโต ไม่ว่าจะเป็น Blockchain, Digital Banking หรือ Cross-border Payments ความสำเร็จของไทยในการออกพันธบัตรที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน (Sustainability-linked Bonds) ทำให้ประเทศกลายเป็นผู้นำด้าน Sustainable Finance ในภูมิภาค ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนยุคใหม่

อะไรคือความท้าทายของไทย ในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก ?

แม้ว่าไทยจะมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุน แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่ต้องก้าวข้ามเพื่อให้ประเทศก้าวไปสู่การเป็น ศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ การทำธุรกิจในไทยยังมีความซับซ้อนในด้านกฎระเบียบ แม้ว่าไทยจะมีความพยายามในการปรับปรุงกระบวนการภายใต้ BOI (Board of Investment) แต่หลายบริษัทจากต่างชาติยังพบว่า ขั้นตอนในการจัดตั้งธุรกิจและระบบเอกสารยังค่อนข้างยุ่งยาก การปรับโครงสร้างไปสู่ Digital-first อาจเป็นทางออกที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน

ด้าน Zak Lawton ตัวแทนจากสหราชอาณาจักร เสริมว่าการทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่แท้จริง ต้องมีการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการลดการใช้เอกสารกระดาษในระบบราชการ

อีกหนึ่งปัญหาที่ถูกกล่าวถึงคือ ความต้องการแรงงานทักษะสูง แม้ว่าไทยจะมีแรงงานที่มีศักยภาพ แต่ในยุคที่ AI และ Big Data เป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้ทันกับความต้องการของตลาดเป็นสิ่งจำเป็น หลายประเทศเลือกแก้ไขปัญหานี้ผ่านการลงทุนด้าน STEM Education และ Reskilling Programs เพื่อสร้างบุคลากรที่สามารถรองรับอุตสาหกรรมอนาคต

นอกจากนี้ การพัฒนาไปสู่ Smart Cities และ Sustainability เป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ไทยต้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศและการจัดการขยะ ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคในการดึงดูดนักลงทุนระยะยาว การลงทุนในพลังงานสะอาด (Green Energy) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หลังจากฟังมุมมองจากตัวแทนสามประเทศ สิ่งที่ชัดเจนคือ ประเทศไทยมีศักยภาพมหาศาลในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับโลก ทั้งในด้านอุตสาหกรรมไฮเทค เศรษฐกิจดิจิทัล และภาคการเงินสมัยใหม่ สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ เร่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจและนวัตกรรม

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ปฏิวัติวงการวัสดุศาสตร์! นักวิจัยสร้าง ‘Structural Color’ เปลี่ยนสีได้ดั่งใจ ไม่พึ่งสารเคมี

นักวิจัย University of Florida พัฒนาวัสดุอัจฉริยะเปลี่ยนสีได้ทันทีด้วย Vanadium Dioxide ไม่ง้อสีย้อมเคมี ใช้หลักการ Structural Color ประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ่งทอ แฟชั่น และชุดพรางตัวทห...

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...