งานประชุมครั้งใหญ่ Worldwide Developers Conference 2023 หรือ WWDC ของ Apple ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-9 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ณ Apple Park ในคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน Youtube ในช่องของ Apple
สิ่งที่น่าจับตาสำหรับงาน WWDC 2023 ในครั้งนี้ มีทั้งหมด 4 สิ่งด้วยกัน
ผลิตภัณฑ์ชุด Reality Pro หรือ Reality One เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจที่สุดในงาน โดยจะเป็นแว่น AR/VR เชื่อมโลกเสมือนและโลกจริง
มีการคาดการร์ว่า แว่น AR / VR นี้จะมีลักษณะเหมือนกับ “แว่นตาสกี” ที่มีแป้นหมุนสำหรับ สลับระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน ซึ่งชุด Headset นี้จะเป็นอุปกรณ์แบบแยก มีแบตเตอรี่แพ็ค ที่ใช้กับชุด Headset ซึ่งมีการคาดการณ์ราคาของชุด Headset ไว้ประมาณ 3,000 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 100,000 กว่าบาท
คุณสมบัติของแว่น AR / VR ที่คาดว่าจะมี
ยังมีรายงานว่า Apple ได้เริ่มการพัฒนาแอปพลิเคชันบางตัวเพื่อใช้ในโหมด VR รวมถึง Safari, FaceTime, Apple TV, Apple Books และ Freeform
Macbook Air รุ่นใหม่นี้ จะแตกต่างจาก Macbook Air รุ่นก่อนๆที่มีขนาดที่ 13 นิ้ว มีการคาดการณ์ว่า MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว น่าจะมาพร้อมกับชิป M2 ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น MacBook Air ที่เปิดตัว เมื่อปีที่แล้ว
Apple เองก็มีการเริ่มทดสอบชิป M3 ใน Macbook Pro จึงมีการคาดการณ์กันอีกว่า Apple อาจมีการ
เปิดตัว Macbook Pro, Macbook Air และ iMac ที่ใช้ชิป M3 ในงาน WWDC 2023 นี้เลยหรือไม่
สิ่งที่ผู้คนต่างจับตารอคือ iOS17 ที่จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน และยังเป็นไฮไลต์ของงาน WWDC ในครั้งนี้
ยังมีการคาดการณ์ว่าระบบ iOS 17 จะมาพร้อมกับระบบ Personal Voice ที่สามารถสร้างเสียงสังเคราะห์ของเราได้ และใช้เวลาในการให้ระบบเรียนรู้เสียงของเราเพียง 15 นาที
รวมถึงการอัปเดตสำหรับ Stage Manager ใน iPadOS 17 และผลิตภัณฑ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็น macOS 14 , tvOS 17 และ WatchOS ที่จะมีการอัปเดตฟีเจอร์และวิดเจ็ตใหม่ๆตามมา
ที่สำคัญอาจมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันเขียนบันทึกสำหรับ iPhone ที่ช่วยให้คุณสามารถบันทึกความคิด และกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งคาดว่า Apple จะเปิดตัวแอปนี้ในงาน WWDC ด้วยเช่นกัน ตามคาดการจะเป็นแอปที่มีชื่อว่า journaling โดยจะรวมใน Find My ด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการปรับปรุง Wallet และ Find My แต่ทั้งนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม
จะมีโหมด Smart Display สำหรับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max โหมดนี้จะมายกระดับ Always-On Display ให้สามารถใช้งานในแนวนอน เพื่อแสดงข้อมูลบางอย่าง เช่น การนัดหมายในปฏิทิน การพยากรณ์อากาศ หรือการแจ้งเตือนต่างๆได้
แอป Health ของ Apple จะมีการเพิ่มฟีเจอร์สำหรับติดตามอารมณ์ความรู้สึกในแต่ละวัน โดยจะมีการบันทึกไว้และประมวลผลลัพธ์ในแต่ละวันได้
เพิ่มการรองรับ SideLoading อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเกมหรือ แอปพลิเคชั่นนอก App Store ได้
อัปเดตประสิทธิภาพของระบบ AirPlay สำหรับการแชร์สตรีมมิ่งไปยังอุปกรณ์ที่รองรับ และ อัปเดต Share Play ใหม่
เนื่องจากเวลาในการปฏิบัติตามกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป กำลังจะหมดลงและกฎบางข้อจะมีผลบังคับใช้ไปแล้วก็ตาม
แต่ Apple ก็มีเวลาอย่างช้าที่สุดจนถึง เดือนมีนาคมปีหน้าเพื่อให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปนอก App Store และแอป Sideload ภายในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple แสดงท่าทีคัดค้านอย่างมาก เพราะกังวลในเรื่องความปลอดภัยของระบบ
Apple จึงอาจใช้เวที WWDC ในการสื่อสารในประเด็นดังกล่าวก็เป็นได้
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของ Apple แล้ว ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ AI ที่ยังคงเป็นประเด็นคำถาม เพราะล่าสุด Apple ก็มีการสั่งให้พนักงานระงับการใช้ ChatGPT เพราะกลัวการรั่วไหลของข้อมูล จึงมีความเป็นไปได้ Apple จะสร้าง AI ของตัวเองหรือไม่
แต่เชื่อว่าสาวก Apple ทั่วโลกกำลังรอการเปิดตัว iPhone 15 มาพร้อมกับสาย USB-C คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดแบบชัดๆในช่วงเดือนกันยายนนี้
ที่มา : The Verge, MacRumors, TechCrunch
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด