อุตสาหกรรมแว่นตากำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากการผลิตแว่นตาด้วยพลาสติก หันไปหาทางเลือกที่ยั่งยืนด้วยวัสดุชีวภาพจากเมล็ดละหุ่ง
ในอุตสาหกรรมผลิตแว่นตาไม่ว่าจะเป็นกรอบแว่น Hi-end ราคาสูง ๆ หรือแว่นตาราคาถูกที่หาซื้อได้ทั่วไป ล้วนผลิตจากพลาสติก ถึงแม้ว่าวัสดุดังกล่าวจะสามารถรีไซเคิลได้ แต่แว่นตาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ถูกทิ้งยังคงถูกฝังกลบเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
Marchon หนึ่งในนักออกแบบและผู้ผลิตแว่นตารายใหญ่ที่สุดในโลก ที่ผลิตกรอบแว่นกว่า 22 ล้านชิ้นต่อปีให้กับหลากหลายบริษัทชั้นนำอย่าง Lacoste, Nike และ Calvin Klein หวังที่จะเปลี่ยนแปลงการผลิตแว่นตาให้มีความยั่งยืนมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาพลาสติกต่อไป Marchon กำลังค้นหาวิธีสร้างสรรค์ในการใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุชีวภาพแทน
จากการทดสอบกระบวนการทางวิศวกรรมและการตรวจสอบที่ครอบคลุม วัสดุชีวภาพจากเมล็ดละหุ่ง หนึ่งในพืชที่เติบโตไวและมีจำนวนมากที่สุดในประเทศอินเดีย ได้กลายเป็นวัสดุทดแทนพลาสติกที่ประสบความสำเร็จที่สุด กรอบแว่นที่ได้มีความแข็งแรง ทนน้ำ และใช้งานได้ดีในทุกสภาวะ
ความสำเร็จนี้ส่งผลให้มีกรอบแว่นจากเมล็ดละหุ่งมากขึ้นโดยเฉพาะแบรนด์ภายใต้บริษัทโดยตรงอย่าง Dragon รวมถึงแบรนด์แว่นตาชื่อดังอย่าง Calvin Klein, Lacoste, Nike, Ferragamo และอื่น ๆ ให้ความสนใจที่จะเปลี่ยนกรอบแว่นตาเป็นวัสดุชีวภาพคาร์บอนตํ่าหรือวัสดุที่รีไซเคิลได้แทน
นอกจากนี้แบรนด์แว่นตาระดับกลางไปจนถึงระดับ Hi-end ได้ให้ความสนใจความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม มีการใช้วัสดุทางเลือกเช่น สแตนเลสชนิดรีไซเคิล อะซิเตตชนิดรีไซเคิล และพลาสติกรีไซเคิล
อย่างไรก็ตาม Thomas Burkhardt CEO จาก Marchon กล่าวว่า “ไม่มีวัสดุทางเลือกใดที่มาทดแทนพลาสติกได้ดีเท่าวัสดุชีวภาพจากเมล็ดละหุ่งอีกแล้วในตอนนี้”
วัสดุทางเลือกจะกลายเป็นกระแสหลักในอนาคต Marchon มีเป้าหมายที่จะผลิตกรอบแว่นที่ทำจากวัสดุทางเลือกที่ยั่งยืนอย่างน้อย 50% ภายในปี 2025 การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมแว่นตา เพิ่มความหวังที่จะสิ้นสุดการผลิตกรอบแว่นจากพลาสติกในอนาคตอันใกล้
อ้างอิง: fastcompany
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด