ปัจจุบันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมีมูลค่าอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ข้อมูลพฤติกรรม การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตของ user แต่ละคน ระบบติดตาม (tracking system เช่น Google Analytic) จะทราบได้ทันทีว่า user คนนั้นมีความชอบหรือกำลังสนใจสินค้าหรือบริการประเภทใด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาต่อยอดด้านการตลาดเพื่อนำมาสร้างโฆษณา (Ads.) ชวนให้ user click และสั่งซื้อสินค้าที่กำลังสนใจอยู่ได้
ดังนั้นการใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ผู้ใช้ควรตระหนักและให้ ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเป็นอย่างมาก เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เบอร์ โทรศัพท์ ซึ่งมักจะปรากฏแบบสาธารณะ และพบได้ง่ายบน Social Network เช่น Facebook หรือ Instagram ตัวอย่างเหตุการณ์เช่น ถ้าขโมยทราบว่าที่พักที่อาศัยอยู่กันกี่คน เมื่อถึงวันพิเศษ คนส่วน ใหญ่มักจะรับประทานอาหาร หรือ shopping ที่ห้างสรรพสินค้า จากนั้นเรามักจะถ่ายภาพ พร้อม check-in สถานที่นั้นๆ และถ้าบังเอิญว่าขโมยได้ติดตาม Instagram เราอยู่ก็จะทราบทันทีว่า ตอนนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่ และสะดวกต่อการเข้ามาเลือกชมของมีค่าในบ้านของเราได้
เพียงแค่การใช้จุดบริการชาร์จไฟสาธารณะ เพราะเราไม่อาจทราบได้เลยว่า สาย USB ที่ต่อออกมาจากจุดให้บริการนั้น ปลายทายของสาย จะเป็นปลั๊กไฟหรือคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าหากปลายทางเป็นคอมพิวเตอร์และมีการฝังโปรแกรม โปรแกรมจะเข้ามาอ่าน ข้อมูลจากอุปกรณ์ของเราไป หรือที่เรียกว่า “Juice Jacking” [1]
วิธีการป้องกัน
เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของเรา เนื่องจาก hacker สามารถตรวจจับข้อมูลที่อุปกรณ์ สมาร์ทโฟนรับ-ส่งไปมาระหว่าง router หรือ switch ได้
วิธีการป้องกัน
เนื่องจากการสั่งซื้อสินค้าแต่ละครั้ง เราจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนตัวกับทางร้านค้า ซึ่งมักจะไม่ค่อยระมัดระวังตัว เพราะข้อมูลที่ร้านค้าขอมามีความจำเป็นทั้งสิ้น ซึ่งถ้าหากใช้บริการร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ ข้อมูลเหล่านั้น อาจจะหลุดไปยังมิฉาชีพได้ง่าย
วิธีการป้องกัน
มีลักษณะเป็น link ที่ฝังมาในอีเมล์ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ click ไปยังหน้า เว็บไซต์ปลอมที่สร้างมาเหมือนกับหน้าเว็บไซต์จริงๆ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูล username และ password เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งานต่อ ตัวอย่างเช่น web phishing ที่ปลอมหน้าเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อหลอกขอข้อมูล username และ password เพื่อเข้าบัญชีธนาคารของเหยื่อได้ หรือ web phishing ที่ปลอมหน้ากรอกหมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น
วิธีการป้องกัน ตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ และ URL ของเว็บไซต์ทุกครั้งก่อน กรอกข้อมูล username password หรือ หมายเลขบัตรเครดิต
เพื่อป้องกันหากเว็บไซต์ใดๆ ที่เราเป็นสมาชิกอยู่ ถูก hacker เจาะระบบเพื่อดึงข้อมูล username และ password มาได้ hacker จะไม่สามารถนำข้อมูลนั้นไป login เข้าระบบอื่นๆ ที่เราเป็นสมาชิกได้ แต่โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้งานมักจะใช้ username และ password เดียวกันกับทุกๆ เว็บไซต์ที่ได้สมัครเป็นสมาชิก เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการจดจำ เช่น ใช้กับการเข้า web mail ทุก account, facebook, youtube จนกระทั่งเว็บ online shopping ต่างๆ
วิธีการป้องกัน
ความรู้ทั้งห้าข้อนี้ มาจากการแบ่งปันโดยทีม CATcyfence ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัยระบบสารสนเทศ (IT Security) อ่านรายละเอียดต้นฉบับที่นี่
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด